โดย Gina Lee
Investing.com – ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในช่วงเช้าวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย กลับตัวจากขาขึ้นแม้การออกนโยบายเยียวยาเศรษฐกิจจะยังมีปัญหา ทางด้านค่าเงินหยวนก็แข็งค่าขึ้นหลังจากมีการเพิ่มหนี้จีนเข้าไปยังดัชนี WGBI ของ FTSE
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ ขยับลง 0.03% เท่ากับ 94.365 เมื่อเวลา 21:52 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1:52 น. GMT)
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ท่ามกลางความคาดหวังว่าสภาสหรัฐจะสามารถยุติความยืดเยื้อที่กินเวลามาหลายเดือนเพื่อออกนโยบายเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยพรรคเดโมแครตได้ประกาศว่าทางพรรคกำลังดำเนินการร่างนโยบายช่วยเหลือเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาเป็นมูลค่า 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐและจะพร้อมสำหรับการลงคะแนนเสียงในสัปดาห์หน้า อีกทั้งยังมีรายงานว่าโฆษกหญิงประจำสภา แนนซี เปโลซี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสตีเวน มนูชิน อาจกลับมาเจรจากันเกี่ยวกับนโยบายเยียวยาเศรษฐกิจอีกครั้งด้วย
ทว่าผู้ลงทุนบางส่วนยังคงมีความกังขาว่าสภาคองเกรสจะสามารถยุติความยืดเยื้อได้จริงหรือไม่ และประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ปฏิเสธการส่งต่ออำนาจอย่างสันติหากเขาไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจึงเพิ่มโอกาสที่จะเกิดความข้อแย้งในการเลือกตั้งอย่างมาก
ทางด้านจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่แล้ว ก็สูงขึ้นถึง 870,000 ราย บ่งบอกถึงการชะลอตัวลงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความจำเป็นเร่งด่วนที่สภาจะต้องออกนโยบายช่วยเหลือเศรษฐกิจเร็ว ๆ นี้
คู่ USD/JPY ขยับขึ้น 0.07% เท่ากับ 105.47
คู่ USD/CNY ติดลบ 0.22% อยู่ที่ 6.8123 ค่าเงินหยวนนอกชายฝั่ง กลับตัวจากขาลงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก FTSE Russell ประกาศว่าจะมีการเพิ่มตราสารหนี้รัฐบาลจีนเข้าไปอยู่ที่ดัชนี WGBI นับตั้งแต่ปี 2021