InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากในการประชุมที่เหลือของปีนี้ ซึ่งมุมมองดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ด้านยูโรอ่อนค่าก่อนธนาคารกลางยุโรปประชุมสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.4% แตะระดับ 103.297
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3802 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3761 ดอลลาร์แคนาดาในวันศุกร์ (11 ต.ค.) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.90 เยน จากระดับ 149.11 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8637 ฟรังก์ จากระดับ 0.8570 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0897 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0939 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3051 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3072 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับขนาดของอัตราดอกเบี้ยที่เฟดจะปรับลด ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเฟดไม่น่าจะลดดอกเบี้ยแรงในการประชุมที่เหลือของปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย. และเดือนธ.ค. หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย.
ตลาดจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ซึ่งนักลงทุนหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้เห็นภาพว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่หลายคนคาดไว้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด และนีล แคชคารี ประธานเฟดมินนิอาโปลิส เนื่องจากคาดว่าอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
ด้านความเคลื่อนไหวของเงินยูโรนั้น เทรดเดอร์รอดูการประชุม ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าที่ประชุมจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังเจ้าหน้าที่ ECB เปิดเผยว่า ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายลงเร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ของยูโรโซน ชะลอตัวสู่ระดับ 1.8% ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน แตะระดับ 2.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ด้วยว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปี 2567
นายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กัลโอ ซึ่งเป็นกรรมการ ECB กล่าวว่า ECB มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ และจะไม่เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่ Capital Economics คาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้ง จนกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแตะระดับ 2.5%