ราคาเนยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนคริสต์มาส

เมื่อเทศกาลเทศกาลใกล้เข้ามา คนทําขนมปังและผู้ผลิตขนมทั่วยุโรปกําลังเผชิญกับราคาเนยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นซึ่งได้รับอิทธิพลจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและสต็อกที่ตึงตัว ทําให้เนยยุโรปซื้อขายในตลาดโลกที่ 8,706 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ณ วันที่ 29 กันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 83% จากปีก่อนหน้า ตามข้อมูลล่าสุดจากค่านายหน้ายุโรป

ราคาเนยที่เพิ่มขึ้นนี้ประกอบกับต้นทุนที่สูงอยู่แล้วสําหรับส่วนผสมหลักอื่นๆ เช่น ช็อกโกแลตและน้ําตาล ซึ่งสร้างแรงกดดันทางการเงินเพิ่มเติมให้กับอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์ระบุว่าการขึ้นราคาเป็นผลมาจากผู้แปรรูปนมที่ให้ความสําคัญกับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทํากําไรได้มากกว่า เช่น ชีสมากกว่าเนย การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการลดลงของผลผลิตนมทั่วโลกในปีที่แล้ว ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาที่ต่ําและต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงซึ่งกีดกันการเลี้ยงโคนมในภูมิภาคการผลิตหลัก เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์

แม้การผลิตนมทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 แต่อุปทานยังคงตึงตัวเมื่อเทียบกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้ทําให้ผู้ผลิตจัดสรรนมให้กับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้มากขึ้น ซึ่งจํากัดการผลิตเนยมากขึ้น สถิติของสหภาพยุโรปแสดงให้เห็นว่าการผลิตนมเพิ่มขึ้น 0.7% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 ถึงกรกฎาคม 2024 ในขณะที่ผลผลิตเนยลดลง สหรัฐอเมริกาการผลิต heese เพิ่มขึ้น 3.2%

ในสหรัฐอเมริกา กระทรวงเกษตรได้เพิ่มการคาดการณ์ราคาเนยในปี 2024 เป็น 3 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้น 15% จากปีที่แล้ว โดยอ้างถึงจํานวนวัวที่ลดลงและการผลิตน้ํานมต่อตัวที่ลดลง USDA คาดการณ์ว่าอุปทานนมที่ตึงตัวขึ้นและความต้องการที่แข็งแกร่งจะยังคงสนับสนุนราคาเนยที่สูงขึ้นในปี 2025

ตลาดเนยทั่วโลกคาดว่าจะสร้างรายได้ 42 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้นมากกว่า 8% จากปี 2022 โดยคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตต่อปีจะอยู่ที่ 7% ภายในปี 2029 ตามรายงานของ Statista ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ํานมที่อาจลดลงเนื่องจากโรคในโคนม รวมถึงโรคลิ้นสีน้ําเงินและโรคเลือดออกในยุโรป

ในขณะที่บริษัทอาหารขนาดใหญ่ได้จัดหาความต้องการเนยไว้เป็นจํานวนมากเพื่อเตรียมการผลิตเค้กคริสต์มาสและไอศกรีม แต่ผู้ผลิตรายย่อยมีแนวโน้มที่จะรู้สึกถึงผลกระทบอย่างรุนแรงมากขึ้น Paul Boivin ผู้อํานวยการสหพันธ์ขนมและขนมสหรัฐอเมริกา FEB แสดงความกังวลต่อผลกระทบที่สําคัญต่อธุรกิจขนาดเล็ก

ในสหรัฐอเมริกาผลกระทบของไข้หวัดนกต่อโคนมยังไม่สําคัญพอที่จะส่งผลกระทบต่อระดับการผลิตนมของประเทศตามที่นักเศรษฐศาสตร์ของ USDA Michael McConnell กล่าว

คาดว่าราคาจะลดลงจากระดับสูงสุดในปัจจุบันในที่สุด เนื่องจากผู้ผลิตนมเพิ่มผลผลิตเพื่อใช้ประโยชน์จากตลาดนิวซีแลนด์ แต่นักวิเคราะห์ Susan Kilsby จากธนาคาร ANZ ในนิวซีแลนด์แนะนําว่าอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่การลดลงอย่างมากจะเกิดขึ้น

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน