โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคมมีดังต่อไปนี้
1. ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงท่ามกลางความหวาดกลัวต่อการระบาดระลอกที่สอง
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลง ได้รับแรงกดดันจากปฏิกิริยาของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้หลังจากประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ให้คำกล่าวในแง่ลบเกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางสัญญาณการระบาดครั้งใหม่ในจีนและเกาหลีใต้
ดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปติดลบ 1.6% สู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่สัปดาห์ ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงมากกว่า 2% หลังจากเกิดความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับช่วงเปลี่ยนผ่านภายหลังจาก Brexit ที่จะสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ ทำให้ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนทางฝั่งเอเชียตลาดหุ้นจีนก็ติดลบราว 1% ขณะที่ตลาดจับตาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจย่ำแย่ลงอีกจากผลกระทบของการระบาดและการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น และล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เซ็นอนุมัติยืดเวลาคำสั่งพิเศษให้ใช้มาตรการแซงก์ชัน Huawei ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีหน้า
2. คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลง แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ดี
คาดว่าสัปดาห์ที่แล้วจะมียอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐครั้งแรกเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ล้านคน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็หมายความว่าเป็นยอดผู้ขอรับสวัสดิการที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาดแรงงาน
ทั้งนี้คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องจะสูงขึ้น 25.10 ล้านรายจากสัปดาห์ที่แล้ว 22.65 ล้านราย
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการตามเวลาเดิม 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
3. ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนลบอีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนลบเป็นวันที่สามติดต่อกันหลังจากคำกล่าวของประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ล่วงหน้าขยับลง 50 จุดหรือ 0.2% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าขยับลง 0.1% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าขยับขึ้น 0.1%
ข่าวที่น่าจับตาในวันนี้มาจาก Abbott Laboratories ซึ่งมีรายงานว่าอุปกรณ์ตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทมีความคลาดเคลื่อนในการตรวจหาผู้ติดเชื้อเกือบครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด และมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีผลเป็น 'ลบแบบเทียม' ซึ่งสามารถแพร่เชื้อไปยังประชาชนคนอื่นได้โดยไม่แสดงอาการ
4. ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นหลังจาก IEA มีมุมมองในแง่บวกมากขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นอีกหลังจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ปรับตัวเลขการประเมินอุปสงค์-อุปทานที่เสียสมดุลเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐขยับขึ้น 4.6% เท่ากับ $26.46 ต่อบาร์เรลและมุ่งหน้าทดสอบระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์ ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ดีดขึ้น 3.6% เท่ากับ $30.25 ต่อบาร์เรล
IEA คาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงไป 8.6% ในปีนี้ ซึ่งน้อยลงจากที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้
5. ข้อตกลงระหว่าง Uber-GrubHub
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า Uber ยังคงอยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทผู้ให้บริการส่งอาหาร GrubHub ในการควบรวมกิจการกับ UberEats
WSJ รายงานว่าทั้งสองฝ่ายกำลังพิจารณาที่จะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นของ Uber 1.9 หุ้นต่อหุ้นของ GrubHub แต่ละหุ้น หลังจาก Uber ไม่ยอมแลกเปลี่ยนหุ้นในอัตรา 2.15 ตามที่ GrubHub เรียกร้อง