ศาลสูงของลอนดอนได้สั่งให้เว็บเทรดอันดับหนึ่งของโลก Binance ติดตามและระงับบัญชี Crypto ของแฮ็กเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการละเมิดความปลอดภัยมูลค่ากว่า 2.6 ล้านดอลลาร์ของบริษัท Fetch.ai คำสั่งดังกล่าวเผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว หลังบริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) Fetch.ai ได้ยื่นคำร้องขอต่อผู้พิพากษาศาลสูงสุดลอนดอนเพื่อเป็นตัวกลางขอให้บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง Binance ดำเนินการแกะรอยหาแฮ็กเกอร์ เพื่อระบุตัวตนและยึดสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา Fetch.ai บริษัทผู้พัฒนาระบบ AI ที่ตั้งอยู่บริษัทอยู่ในอังกฤษและสิงคโปร์ อ้างว่าพวกเขาถูกแฮ็กบัญชีคริปโตที่เปิดให้บริการโดย Binance และแฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงบัญชีที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลหลายรายการ รวมถึง Bitcoin (BTC), Binance Coin ( BNB), Tether ( USDT) และโทเค็น Fetch.ai (FET) ของตน แฮ็กเกอร์ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการขายสินทรัพย์คริปโตที่ขโมยมา โดยมอบส่วนลดเป็นจำนวนมากให้กับบุคคลที่สาม ผู้พิพากษา Pelling QC ได้อธิบายคำสั่งในบันทึกการดำเนินคดีในศาลไว้ดังนี้ : “มีการร้องขอคำสั่งให้ระงับการใช้งานบัญชีคริปโตในทั่วโลกจากผู้ที่รู้เท่าทันเกี่ยวกับการฉ้อโกง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้อ้างสิทธิ์สามารถอายัดทรัพย์สินของพวกเขาได้ ซึ่งจะทำให้คำตัดสินใจของศาลมีผลบังคับใช้ได้จริง” Syedur Rahman หุ้นส่วนของสำนักงานกฎหมาย Rahman Ravelli ซึ่งเป็นตัวแทนของ Fetch.ai ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สินทรัพย์ที่ถูกขโมยไปนั้นสามารถกู้คืนได้ “เราจำเป็นต้องโยนความเชื่อที่ว่าสินทรัพย์คริปโตนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ทิ้งไป เพราะด้วยกฎและการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว พวกเขาสามารถติดตาม และกู้คืนสินทรัพย์เหล่านี้ได้” โฆษกของ Binance กล่าวว่า ในขณะนี้บริษัทกำลังยื่นมือเข้ามาช่วยกู้คืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป “Binance ระงับบัญชีที่ถูกระบุว่า มีกิจกรรมที่น่าสงสัยซึ่งสอดคล้องกับนโยบายความปลอดภัยของเราและมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า พวกเขาจะได้รับการปกป้องในขณะที่ใช้แพลตฟอร์มของเรา”
กดอ่านข่าว ศาลอังกฤษสั่งให้ Binance ตรวจสอบและระงับบัญชี Crypto ของแฮ็กเกอร์ ต่อที่ Siam Blockchain