รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

Weekly comic: วันแห่งการคิดบัญชีของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่

เผยแพร่ 18/11/2565 14:52
อัพเดท 18/11/2565 14:22
© Investing.com

โดย Geoffrey Smith

Investing.com - ถึงคราวคิดบัญชีของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่

เป็นระยะเวลากว่า 12 ปีที่ภาคส่วนนี้ทำกำไรได้มากอย่างคาดไม่ถึง โดยมีช่วงเวลาหนึ่งที่ทำกำไรได้มากถึง 4% ในวันนี้โดยไม่มีความเสี่ยงใด ๆ เลย แต่ความโชคดีนั้นกำลังจะหมดไป

และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย

ภาคส่วนนี้ค่อย ๆ ซบเซาเป็นเวลาหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นแล้ว การเลิกจ้างที่สำคัญ ๆ นั้นเกิดขึ้นกับบริษัทที่ผู้คนต่างคิดว่าไม่มีวันจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เนื่องจากตำแหน่งผู้นำของเขาในยุคที่แน้มโน้มของการสตรีมมิ่ง โซเซี่ยลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ หรือยานยนต์ไร้คนขับ ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก

Facebook เจ้าของ Meta Platforms (NASDAQ:META) กำลังปรับลดพนักงาน 11,000 คนหรือหนึ่งในเจ็ดของพนักงานทั่วโลก มีรายงานว่า Amazon (NASDAQ:AMZN) กำลังพิจารณาการลดจำนวนพนักงานลง 10,000 คน ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นส่วนแบ่งที่น้อยกว่ามากในจำนวนพนักงาน 1.5 ล้านคนที่แข็งแกร่ง Twitter ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ อีลอน มัสก์ เจ้าของใหม่ที่ดุดันก็กำลังลดจำนวนลงครึ่งหนึ่ง

บริษัท Stripe, Snap (NYSE:SNAP) และ Netflix (NASDAQ:NFLX) พร้อมด้วย Lyft (NASDAQ:LYFT) และ Uber (NYSE:{{1115848) |UBER}}) ต่างก็เดินเส้นทางเดียวกันในปีนี้ โดยเฉพาะสัปดาห์นี้มีบริษัทที่ประกาศลดพนักงานลงอีก เช่น Cisco Systems (NASDAQ:CSCO) ที่ได้ประกาศว่าจะปลดพนักงานลง 4,100 ตำแหน่ง ในขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์สตรีมมิ่ง Roku (NASDAQ:ROKU) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่าจะปรับลดพนักงานลง 200 ซึ่งในทั้งสองกรณี นั่นคือประมาณ 5% ของทั้งหมด

โดยกล่าวกันว่าปัญหาที่มีเหมือนกันคือจุดขายที่อ่อนแอซึ่งรวมถึงองค์ประกอบที่เกี่ยวกับการโฆษณาที่เป็นไปตามกระแสและจุดเด่นเฉพาะตัว

องค์ประกอบที่มีจุดขายที่เป็นจุดเด่นเฉพาะตัว อย่างเช่น บริษัท Apple (NASDAQ:AAPL) ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของอุปกรณ์พกพาของโลกและมีส่วนแบ่งที่มากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคที่ร่ำรวยกว่า โดยมีจุดขายคือนโยบายความเป็นส่วนตัวที่สูงมาก ดูเหมือนว่าผู้ใช้ Apple จะชอบฟีเจอร์นี้ ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่ราคาหุ้นจะตก

องค์ประกอบที่เป็นเป็นไปตามกระแสคือ การใช้จ่ายตามสิ่งที่เห็นในโฆษณา ที่ราคาสิ่งของไม่เกินเงินเดือนของผู้บริโภค ภาคส่วนนี้เฟื่องฟูอย่างมากในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ทั่วโลก ผู้ผลิตมองเห็นโอกาสที่ดีที่จะขยายฐานการซื้อของลูกค้าที่ต้องอยู่บ้าน โดยสร้างสรรค์ไอเดียที่จะทำให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้น แต่รายรับกลับต้องหดตัวเมื่อต้องประสบกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ที่ได้สั่นคลอนความมั่นคงทางหน้าที่การงานไปทั่วโลก

ขณะนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำสุดตลอดกาลในประเทศต่าง ๆ เช่น สหราชอาณาจักร และ เยอรมนี

อีกสิ่งหนึ่งที่ก่อปัญหานั่นก็คือ ความมั่นใจมากเกินไปที่ทำให้เกิดการเผยแพร่นโยบายที่ไม่ธรรมดาและไม่ยั่งยืนในช่วงของการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ มีคนมากเกินไปที่เชื่อว่าช่วงเวลาดี ๆ จะคงอยู่ตลอดไป หรือถ้าให้คิดบวกมากกว่านี้ก็คือ หลาย ๆ คนคิดว่า การแพร่ระบาดของไวรัสจะกินเวลายาวนานและจะหนุนเทรนด์ของโลกดิจิตอลและโลกออโตเมชั่น ในวันพฤหัสบดี มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ ของ Meta และ แอนดี้ เจสซี่ CEO ของ Amazon ต่างออกมายอมรับว่ามีการจ้างงานมากเกินไปเพื่อรองรับแนวคิดนั้น

ปัญหาข้อที่สามก็คือ การถือครองทรัพย์สินแบบยาว ๆ ในภาคส่วนนี้กลับกลายเป็นว่าเป็นการถือที่ยาวเกินไป แม้ว่าธุรกิจหลักของบริษัทอย่าง Meta และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) จะทำเงินได้ดี แต่โครงการที่เกิดขึ้นเพราะความชอบของ CEO หรือ Pet Projects ที่พวกเขางบดุลของบริษัทสนับสนุนกลับสูญเสียเงินก้อนโต

มาร์ค เกิร์สตเนอร์ แห่ง Altimeter Capital ขอร้อง ซัคเคอร์เบิร์กเมื่อเดือนที่แล้วให้ลดการใช้จ่ายในโครงการ Metaverse ของเขาลงครึ่งหนึ่ง สูงสุดที่ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี คริส ฮอห์น หัวหน้ากองทุนป้องกันความเสี่ยงในลอนดอน TCI ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แบบเดียวกันกับเจ้าของ Google เจ้าของ Alphabet ในสัปดาห์นี้โดยออกมาร้องเรียน ศุนทัร ปิจไช ซีอีโอ เกี่ยวกับการใช้จ่าย 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาใน “โครงการอื่น ๆ” ซึ่งสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดคือโครงการ รถยนต์ไร้คนขับที่ชื่อว่า Waymo

การขยายตัวที่มากเกินไปของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายหลายนั้น ไม่เพียงจะส่งผลเสียต่อผู้ถือหุ้นบริษัทเอง (Amazon, Meta และ Alphabet ลดลง 43%, 67% และ 32% ตามลำดับในปีนี้) ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยทั่วไป ที่ส่วนที่เสียไปเหล่านั้นน่าจะสร้างประโยชน์ได้มากกว่านี้

เกิร์สตเนอร์ จาก Altimeter กล่าวว่า "เราขาดแคลนผู้มีความสามารถในซิลิคอนแวลลีย์" "Meta และบริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ทำให้การจ้างงานอีกครั้งเป็นเรื่องยากมาก" เกิร์สตเนอร์กล่าวว่าเขา "มั่นใจว่าพนักงานเหล่านี้จะหางานอื่นทดแทนและกลับมาทำงานสร้างสรรค์ที่สำคัญได้อย่างรวดเร็วซึ่งจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า"

ซึ่งจากข้อมูลทางเศรษฐกิจขณะนี้ดูเหมือนะพิสูจน์ว่าเขาพูดถูกต้อง แม้ว่าจำนวนการเลิกจ้างจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่จำนวนผู้ยื่นคำขอรับสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากระดับต่ำสุดในรอบ 60 ปี บ่งชี้ว่าผู้ที่ถูกเลิกจ้างมีโอกาสที่จะถูกจ้างงานจากที่อื่น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับภาคประชาชนซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจระดับมหภาคต่อไป

และความเป็นจริงนั้นอาจช่วยอธิบายความยืดหยุ่นของ การบริโภค ของสหรัฐฯ ในช่วงหลายสัปดาห์และหลายเดือนที่ผ่านมาแม้ว่าแนวโน้มจะซบเซาอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นอาจตกงาน แต่ถ้าความมั่นใจของพวกเขามีมากพอที่จะหางานใหม่ได้เร็ว พวกเขาจะไม่กลัวที่จะนำเงินออมออกมาใช้จ่าย

แม้ว่าจะเห็นความเครียดโดยทั่วไป แต่ก็ยังมีเหตุผลดี ๆ ที่จะไม่ท้อแท้กับการลดขนาดของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ ให้ถือเป็นการฝึกวินัยการลงทุนและตัดส่วนที่ขาดทุนออก ไม่ใช่สัญญาณของความเลวร้ายเสียทั้งหมด แม้ว่าขณะนี้จะยังเห็นเป็นอื่นไม่ได้นอกจากความย่ำแย่ก็ตาม

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย