ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดในวันนี้: หุ้นฟิวเจอร์สปรับขึ้น ผลประกอบการของ Amazon

เผยแพร่ 06/02/2568 16:27
© Reuters

Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ และข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐ ด้าน Amazon (NASDAQ:AMZN) ก็เตรียมเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งนักลงทุนต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับแผนการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซรายนี้ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการเปิดตัวโมเดล AI ราคาประหยัดจากสตาร์ทอัพจีน DeepSeek

ขณะเดียวกัน Qualcomm (NASDAQ:QCOM) ได้เปิดเผยแนวโน้มที่ซบเซาสำหรับธุรกิจให้สิทธิ์ใช้งานสิทธิบัตร ขณะที่ CEO ของ Ford (NYSE:F) เตือนถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์

1. หุ้นฟิวเจอร์สปรับขึ้น

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงกำลังทุนประเมินรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ และผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ

ณ เวลา 15:32 น.(GMT+7) ดัชนี ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 66 จุด หรือ 0.2% S&P 500 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 9 จุด หรือ 0.2% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 22 จุด หรือ 0.1%

ดัชนีหลักในวอลล์สตรีทปิดเป็นบวกทั้งหมดในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google (NASDAQ:GOOGL) รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในปีนี้

ดัชนีภาคการบริการชะลอตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนมกราคม เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของราคา ตามรายงานจากสถาบัน Institute for Supply Management สัญญาณของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงช่วยเพิ่มโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากระดับ 4.25%-4.5% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับราคา ก็ยังคงอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน ก่อนที่ข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมจะถูกเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์

2. รายงานผลประกอบการของ Amazon

Amazon บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่เตรียมเปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสในวันนี้

เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ Amazon คาดว่าจะเผชิญกับคำถามจากนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายด้านปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท หลังจากการเปิดตัวของ DeepSeek ได้รับความสนใจ

ในสัปดาห์นี้ Alphabet เปิดเผยงบลงทุนปี 2025 ที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลงในวันพุธ ขณะที่ผู้บริหารของ Meta Platforms (NASDAQ:META) บริษัทแม่ของ Facebook และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) ต่างออกมาปกป้องการใช้จ่ายจำนวนมากใน AI โดยอ้างว่าสิ่งนี้จำเป็นต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม DeepSeek อ้างว่าสามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ ChatGPT ของ OpenAI แต่ใช้ชิปที่มีเทคโนโลยีต่ำกว่าด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวของบริษัทใน Silicon Valley ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นของการใช้จ่ายมหาศาลใน AI

นอกจากนี้ ผู้บริหารของ Amazon ยังอาจต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของทรัมป์ในการปิดช่องโหว่ “de minimis” ซึ่งเป็นข้อยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ โดยในทางทฤษฎีการยุติช่องโหว่นี้อาจเป็นผลดีต่อ Amazon เนื่องจากมันอาจกระทบต่อคู่แข่งจากจีนที่เน้นราคาประหยัด เช่น Shein และ Temu ของ PDD

3. ฤดูกาลรายงานผลประกอบการ

นอกเหนือจาก Amazon แล้ว ยังมีบริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่เตรียมรายงานผลประกอบการในวันนี้ ได้แก่ บริษัทผลิตยา Eli Lilly (NYSE:LLY) กลุ่มธุรกิจยาสูบ Philip Morris (NYSE:PM) และกลุ่มบริษัท Honeywell (NASDAQ:HON)

หลังจากตลาดปิดไปในวันพุธ Qualcomm รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการสมาร์ทโฟนที่ฟื้นตัวจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไรก็ตาม บริษัทชิปเซ็ตรายนี้ได้ระบุว่าธุรกิจให้สิทธิ์ใช้งานสิทธิบัตรที่ทำกำไรสูงจะไม่เติบโตในปีนี้ หลังจากข้อตกลงกับ Huawei Technologies สิ้นสุดลง ส่งผลให้หุ้นของ Qualcomm ปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายนอกเวลาทำการ

ขณะเดียวกัน บริษัทออกแบบชิป Arm Holdings (NASDAQ:ARM) ซึ่งเก็บค่าลิขสิทธิ์และค่าธรรมเนียมจากเทคโนโลยีของตนเอง เปิดเผยว่าจะไม่สามารถทำรายได้ถึงระดับสูงสุดตามที่เคยคาดการณ์ไว้ตลอดทั้งปี โดยนักลงทุนคาดหวังว่าบริษัทจะปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้หลังจากที่มีการนำการออกแบบชิปของบริษัทไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI ตามรายงานของรอยเตอร์สที่อ้างอิงนักวิเคราะห์

Ford ยังเตือนว่าบริษัทอาจขาดทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ในปีนี้ ขณะที่การคาดการณ์กำไรประจำปีจะต่ำกว่ารายได้ในปี 2024 ส่งผลให้หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายนอกเวลาทำการ

Jim Farley ซีอีโอของ Ford ยังกล่าวว่า อัตราภาษี 25% ที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เสนอและปัจจุบันได้เลื่อนออกไป ซึ่งจะนำมาใช้กับแคนาดาและเม็กซิโก อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมเตือนว่าภาษีดังกล่าวอาจทำให้ “ผลกำไรของอุตสาหกรรมหลายพันล้านดอลลาร์” หายไป

4. การตัดสินใจดอกเบี้ยของ BoE

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตรียมจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณปรับลดเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษอยู่ในภาวะชะลอตัว

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.25 จุดเปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 4.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2023 พร้อมทั้งอัปเดตการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

นับตั้งแต่การคาดการณ์ครั้งล่าสุดของ BoE ในเดือนพฤศจิกายน เศรษฐกิจอังกฤษได้แสดงสัญญาณชะลอตัว ขณะที่มาตรวัดเงินเฟ้อที่คณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้ความสนใจมากที่สุดก็ปรับตัวลดลง

นักวิเคราะห์จาก Bank of America Securities คาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของ BoE จะลงคะแนนเสียง 8-1 เห็นชอบให้มีการลดอัตราดอกเบี้ย

“การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การเติบโตที่อ่อนแอ และตลาดแรงงานที่ผ่อนคลายลง เป็นปัจจัยที่สนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย” นักวิเคราะห์จาก BOA ระบุในบันทึกเมื่อวันที่ 31 มกราคม

5. ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้หลังร่วงลงในวันก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่ลดลงจากผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก

ณ เวลา 15:33 น. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 71.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญา น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.3% มาเป็น 74.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 2% ในวันพุธ หลังจากสำนักงานข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานประจำสัปดาห์ว่า สินค้าคงคลังน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 8.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สมาคมอุตสาหกรรมปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) คาดการณ์ไว้

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงราว 10% จากจุดสูงสุดของปี 2025 ซึ่งราคาเคยไปถึงระดับดังกล่าวเมื่อไม่นานก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเป็นสมัยที่สอง นักลงทุนกำลังจับตาความเป็นไปได้ของมาตรการภาษีรอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงอัตราภาษีที่อาจถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ด้านพลังงาน

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย