ข่าวเด่น
เสนอซื้อเสนอขาย
ประเภทตราสารทั้งหมด

โปรดลองค้นหาใหม่อีกครั้ง

Investing Pro 0
⏰ โต้ตอบตลาดได้เร็วขึ้นด้วยบริการข่าวแบบเรียลไทม์และกำหนดเอง เริ่มต้นเลย

3 เรื่องที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้ ( 14 ส.ค.)

บันทึกแล้ว ดู รายการที่ได้บันทึก.
ได้บันทึกบทความนี้ไว้เรียบร้อยแล้วใน รายการที่ได้บันทึก ของคุณ
 
© Reuters.
 
SETI
-0.11%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
TOP
-0.48%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 
THCOM
-2.11%
เพิ่ม/ลบจากพอร์ตลงทุน
เพิ่มเข้าไปในวอทช์ลิสต์
เพิ่มสถานะ

ได้เพิ่มสถานะเข้าไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้ากับ:

กรุณาระบุชื่อของพอร์ตถือครองของคุณ
 

โดย Detchana.K

Investing.com- เปิดตลาดสัปดาห์หน้ามีตัวเลขสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาดู นั่นคือตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาสสองของปีนี้ จากสภาพัฒน์ฯ ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะติดลบ 15% จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เห็นว่ามุมมองทั้งเศรษฐกิจและกําไรบริษัทจดทะเบียน น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วและตลาดหุ้นไทยน่าจะสดใสขึ้นได้หลังจากนี้ ติดตามรายละเอียดพรอมประเด็นอื่นที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้

1.วันจันทร์รอตัวเลข GDP ไทยไตรมาสสองจากสภาพัฒน์ คาด -15% YoY

บล. เอเชียพลัสให้ข้อมูลว่า วันจันทร์หน้า 17 ส.ค. เวลา 9.30 น. สภาพัฒน์ฯ จะรายงาน GDP Growth 2Q63 ASPS คาดหดตัว 15%yoy และหดตัว 18.9 %qoq อยู่ที่ 2.26 ล้านล้านบาท (เทียบกับBloomberg Consensus คาดเฉลี่ย 13.7 %yoy และ -12 %qoq) โดย ASPS ประเมินงวด 2Q63 เป็น Bottom ของปีนี้แล้วและงวด 3Q-4Q63 เศรษฐกิจจะ
ค่อยๆฟื้นตัว QoQ เนื่องจาก Reopen กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศ แต่ yoy คาดหดตัว8.5%yoy และ 6%ตามลําดับ เนื่องจากประเทศไทยพึ่งพาภาคต่างประเทศ คือ ส่งออก
ราว 68% ของ GDP และ ท่องเที่ยว 20%GDP

ซึ่งทั้ง 2 ภาคยังชะลอตัวอย่างไรก็ตามหลังประกาศตัวเลข GDP 2Q63 แล้ว ASPS ประเมินว่าตลาดน่าจะกลับมาให้น้ำหนักความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ของทีม ครม.เศรษฐกิจใหม่ซึ่งวันที่ 17 ส.ค. รัฐมนตรีคลังจะเข้ากระทรวงและเริมออกมาตรการ โดย ASP คาดว่าจะเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการบริโภค การท่องเที่ยว, ภาคอสังหาริมทรัพย์, ภาคยานยนต์, การพักชําระหนี้ และตลาดทุน เป็นต้น

2 . ตลาดหุ้นไทยคาดฟื้นตัวหลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดใน 2Q63

ภาพรวมตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการรายงานผลประกอบการงวด 2Q63 ที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งล่าสุดมีการรายงานมาแล้ว 385 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน 81 % ของมูลค่าตลาด) มีกำไรสุทธิรวมอยู่ ที่ 8.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 5.3 %QoQ และลดลง55%YoY

บล. เอเชียพลัสให้ความเห็นว่าหากพิจารณาภาพรวมกําไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนปี 2563 ล่าสุดอยู่ที 6.48 แสนล้านบาท คิดเป็น EPS63F เหลือเพียง 59.85 บาท/หุ้น) อย่างไรก็ ตามคาดประเด็นดังกล่าว ถูกสะท้อนลงไปในตลาดหุ้นพอสมควรแล้ว ดูได้จากตลาดหุ้น โลก(MSCI World Index) เพิ่มขึ้น 3.7 %(mtd) ขณะที่ ตลาดหุ้นไทย Underperform โดยปรับตัวขึ้นเพียง 1.4 %(mtd) เท่านั้น

หากพิจารณาบริษัท จดทะเบียนหลายบริษัท ที่ทําผลประกอบการงวด Q63 ออกมาเติบ โตได้ดี ทั้ง QoQ และ YoY คื อ THCOM, NWR, TU,  (BK:TOP), AP, DELTA, SINGER,DCC, GPSC, TASCO และ SC รวมถึงยังมีหุ้นที่ถูกปรับประมาณการกําไรขึ้นนับตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. คือ  (BK:THCOM), SPVI, DCC, RS, QH และ TKN เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่ามี
หลายบริษัทที่ประกาศงบ 2Q63 ออกมาดีกว่าคาด และคาดฟื้นในช่วงครึงหลังของปี คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อ SET Index ตราบที่สภาพคล่องส่วนเกินในระบบยังมีปริมาณสูง

มุมมองทั้งเศรษฐกิจและกําไรบริษัทจดทะเบียน น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และน่าจะทยอยฟื้นตัวต่อจากนี้ ทําให้สภาพคล่องส่วนเกินที่ล้นระบบน่าจะทยอยเข้ามาลงทุนใน
ตลาดหุ้นทั้งส่วนของนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันดังนี้

Fund Flow ต่างชาติ มีโอกาสสลับ เข้ามาบ้างในช่วงที่เหลือของปี จาก 3 สาเหตุหลักๆ คือ- สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยจากต่างชาติอยุ่ในระดับต่ำต่างชาติขายหุ้น
ไทยมาแล้วกว่า 2.32 แสนล้านบาท (ytd) จนทําให้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยจากต่างชาติ (Foreign Holding) ลดลงเหลือ เพียง 26.13 % ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

และแรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มเบาลงทุกๆ เดือน สังเกตได้จากเดือน มี.ค. ต่างชาติเคยขายสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 7.8 หมื่นล้านบาท ลดลงมาเรื่อยๆจนเดือน ส.ค. (mtd) เริ่มมีการสลับเข้ามาซื้อบ้าง และภาพรวมขายสุทธิเพียง 5.1 พันล้านบาทเท่านั้น

3.วันพรุ่งนี้ รอดูการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน
ตลาดหุ้นทั่วโลกตลอดสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้นตอบรับข่าวบวก จากประเด็น พัฒนาการความคืบหน้าวัคซีน Covid-19 ล่าสุด คือ รัสเซีย, การผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ อาทิ EU ให้
ประเทศเข้าประเทศ ฯลฯ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเริ่มชะลอการปรับขึ้น โดยยังรอ วันเสาร์ 15 ส.ค. การประชุมทบทวน (Review) ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐกับจีน
เพื่อติดตามความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ทั้ง 2 ประเทศลงนามไว้เมื่อเดือน ม.ค. 2563 โดยทาง ASPS ประเมินไว้ 2 แนวทางคือ

แนวทางแรก สหรัฐกลับมากดดันจีนอีกครั้ง : คาดเป็นสิ่งที่สหรัฐสามารถทําได้ในรูปแบบภาษีนำเข้า(Tariff) เช่น 1.) การขึ้นภาษีนำเข้ารอบ 4.2 วงเงิน 1.6 แสนล้านเหรียญฯ 2.) ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารอบ 4.1 กลับไปอยู่ในระดับ 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.5% ฯลฯ : มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เนื่องจาก ในข้อตกลงการค้า เฟส 1 ดังกล่าว จีนทําสัญญาจะนําเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงินราว 7.7 หมื่นล้านเหรียญในปี 2563 แต่ข้อเท็จจริง คือ เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ทําให้นําเข้าสินค้าจากสหรัฐน้อยกว่าสัญญาที่ตกลงไว้ และเป็นการเรียกคะแนนเสียงความนิยมให้กับประธานาธิบดีทรัมป์


หากเกิดขึ้นคาดจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และ หุ้นที่อิง Global อาทิ หุ้นพลังงาน และหุ้นส่งออก

แต่หากตกลงเจรจากันได้ : ASPS คาดมีโอกาสเกิดขึ้นเช่นกัน ในช่วงหลัง ๆ ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้แสดงท่าทีหรือแถลงสือถึงการกีดกันการค้ากับจีนหากเกิดขึ้นคาดจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

3 เรื่องที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้ ( 14 ส.ค.)
 

บทความที่เกี่ยวข้อง

แสดงความคิดเห็น

เกณฑ์การแสดงความคิดเห็น

เราสนับสนุนให้ท่านได้ใช้ช่องทางการแสดงความคิดเห็นนี้เพื่อสื่อสารสัมพันธ์กับผู้ใช้เว็บไซต์อื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนในทัศนคติและสอบถามข้อสงสัยกับผู้เขียนและสอบถามซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การสื่อสารสัมพันธ์นี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยที่เราทุกคนต้องการและคาดหวังดังนี้กรุณาพึงระลึกในข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้:  

  • มีเนื้อหาสาระ การสนทนาควรมีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ
  • เอาใจใส่และตรงประเด็น กรุณาโพสต์ในเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องที่กำลังอภิปราย
  • ให้เกียรติ แม้ในการแสดงความคิดเห็นเชิงลบก็ตามควรต้องกระทำในลักษณะสร้างสรรค์และสุภาพ
  • ใช้สไตล์การเขียนมาตรฐานทั่วไป ที่รวมถึงการใช้เครื่องหมายวรรคตอนและตัวอักษรใหญ่เล็ก
  • หมายเหตุ: ข้อความและลิงค์ประเภทสแปมและ/หรือเพื่อการส่งเสริมการขายที่ปรากฎในการแสดงความคิดเห็นจะถูกลบทิ้ง
  • หลีกเลี่ยงการลบหลู่ การให้ร้ายผู้อื่น และการกล่าวโจมตีโดยส่วนตัว ที่กระทำต่อผู้เขียนเนื้อหาในเว็บหรือต่อผู้ใช้เว็บไซต์คนอื่น
  • เฉพาะภาษาไทยเท่านั้น สามารถแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทยเท่านั้น

ผู้ที่โพสต์เนื้อหาข้อความสแปมหรือใช้เว็บไซต์นี้ไปในทางผิดจะถูกลบรายชื่อทิ้งจากเว็บไซต์และถูกปิดกั้นการลงทะเบียนเป็นสมาชิกในอนาคตซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของเว็บไซต์ Investing.com

เขียนบรรยายความคิดของคุณได้ที่นี่
 
คุณแน่ใจว่าต้องการลบกราฟนี้?
 
โพสต์
และโพสต์บน :
 
แทนที่กราฟที่แนบมาด้วยกราฟใหม่ ?
1000
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของคุณถูกระงับในขณะนี้เนื่องจากมีรายงานเชิงลบจากผู้ใช้เว็บไซต์ ผู้ดูแลเพจของเราจะทบทวนสถานะของคุณ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ ความคิดเห็นของคุณทั้งหมดจะอยู่ระหว่างการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ ดังนั้นอาจใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะปรากฎบนเว็บไซต์ของเรา
 
คุณแน่ใจว่าต้องการลบกราฟนี้?
 
โพสต์
 
แทนที่กราฟที่แนบมาด้วยกราฟใหม่ ?
1000
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของคุณถูกระงับในขณะนี้เนื่องจากมีรายงานเชิงลบจากผู้ใช้เว็บไซต์ ผู้ดูแลเพจของเราจะทบทวนสถานะของคุณ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
เพิ่มกราฟไว้ในคอมเมนต์
ยืนยันการบล็อก

คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการบล็อก %USER_NAME%?

เมื่อทำการบล็อก คุณและ %USER_NAME% จะไม่สามารถเห็นโพสต์ของแต่ละฝ่ายบนเว็บไซต์ Investing.com ได้

%USER_NAME% ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Block List ของคุณแล้ว

เนื่องจากคุณเพิ่งยกเลิกการบล็อกบุคคลนี้ คุณต้องรอ 48 ชั่วโมงก่อนการบล็อกอีกครั้ง

รายงานความคิดเห็นนี้

ฉันรู้สึกว่าความคิดเห็นนี้

ความคิดเห็นได้รับการติดธงเตือน

ขอบคุณ!

รายงานของคุณได้ถูกส่งไปยังผู้ดูแลบอร์ดของเราเพื่อการทบทวน
สมัครสมาชิกด้วย Google
หรือ
สมัครสมาชิกด้วยอีเมล