รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ธุรกิจโรงแรมปี 63 หดตัวแรงจากโควิด กรุงเทพ-ภูเก็ตติดโผสูญรายได้ท่องเที่ยวหนักสุด

เผยแพร่ 09/07/2563 09:42
อัพเดท 09/07/2563 09:54
© Reuters.

โดย Detchana.K

Investing.com - ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินเผยรายงานระบุว่า ธุรกิจโรงแรม ปี2563หดตัวแรงโดยได้รับผลกระทบสำคัญจากทั้งเศรษฐกิจและการค้าโลกที่หดตัวและยังถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCovid-19ทำให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยออกมาตรการปิดเมือง-ปิดประเทศ(Lockdown)เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดจนทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างฉับพลันของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน รายได้และการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลื่อนหรือยกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมขาดรายได้อย่างฉับพลันและส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจหดตัวรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งผู้ประกอบการบางรายที่ทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินไม่ไหวจำเป็นต้องยุติการดำเนินธุรกิจฯและประกาศขายกิจการ

คาดว่าทิศทางธุรกิจโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันเป็นลำดับขั้น และมีการออกมาตรการทางการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยวประกอบกับหากประเทศไทยมีการเปิดประเทศแบบจำกัดหรือเต็มรูปแบบ คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากจะเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างไรก็ตามหากมีการกลับมาระบาดรุนแรงอีกในรอบที่ 2 อาจท้าให้ทุกประเทศออกมาตรการป้องกันที่เข้มข้นขึ้นและใช้ระยะเวลานานกว่าเดิมซึ่งอาจกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมอย่างฉับพลันอีกครั้งหนึ่งได้

ภาพรวมธุรกิจโรงแรม4 เดือนแรก ปี 2563“หดตัวลงต่อเนื่อง”จากปัญหาเศรษฐกิจและการค้าของไทยและต่างประเทศที่ชะลอตัวลงและถูกซ้ำเติมด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสCovid-19ที่เริ่มรุนแรงขึ้นและมีการแพร่ระบาดไปหลายประเทศส่งผลให้รัฐบาลประเทศต่างๆ เริ่มออกนโยบายเพื่อรักษาและสกัดกั้นการระบาดของโรคจนกระทบต่อการจ้างงาน รายได้และการดำเนินชีวิต สำหรับประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงขึ้นมากในเดือนมีนาคมคณะรัฐมนตรีจึงมีการออกมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19ในวันที่17มีนาคม2563และมีการสั่งปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อฯ รวมทั้งออกมาตรการปิดเมือง-ปิดประเทศ(Lockdown)ตามมา ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศยกเลิกการเดินทางและการจองห้องพักส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในทุกพื้นที่หายไปสถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมจึงหดตัวลงในทุกด้าน ทั้งจำนวนห้องพักอัตราการเข้าพักราคาห้องพักการจัดประชุม/สัมมนาและจำนวนนักท่องเที่ยว

สำหรับแนวโน้มธุรกิจโรงแรมปี 2563 คาดว่า“หดตัวแรง”เนื่องจากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจฯหลายประการทั้งเศรษฐกิจและการค้าโลกที่หดตัวซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อของหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อาทิจีน ญี่ปุ่น รัสเซียนอกจากนี้ยังถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของไวรัสCovid-19ที่แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศในหลายภูมิภาค ส่งผลให้หลายประเทศรวมถึงประเทศไทยมีการออกมาตรการLockdownเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว อาทิห้ามเดินทางเข้าออกประเทศรวมถึงบางพื้นที่ภายในประเทศรวมทั้งสั่งปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อฯส่งผลให้หลายธุรกิจต้องปิดกิจการเป็นการชั่วคราว ทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมากซึ่งกระทบต่อรายได้การดำเนินชีวิตและระบบเศรษฐกิจในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdownโดยตรง เนื่องจากนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางและการจองห้องพักต่างๆโรงแรมจึงขาดรายได้และส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจหดตัวรุนแรงซึ่งผู้ประกอบการที่มีสภาพคล่องต่่ำบางรายที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินไม่ไหวต้องยุติธุรกิจหรือประกาศขายกิจการ

สำหรับปี 2563กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ในช่วง14ถึง16ล้านคนหดตัวร้อยละ-59.8 ถึง-64.8จากปีก่อนมีรายได้8.28 แสนล้านบาท หดตัวร้อยละ-57.8และมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 100ล้านคน-ครั้งหดตัวร้อยละ-41.7และมีรายได้เพียง4.02 แสนล้านบาท หดตัวร้อยละ-63.6จากปีก่อนทั้งนี้ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินได้ประเมินการสูญเสียรายได้ของธุรกิจโรงแรมจากผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวอยู่ในช่วง–279,293.2ถึง–418,440.3 ล้านบาท

โดยจังหวัดที่สูญเสียรายได้สูงสุด 5 อันดับแรกคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และกระบี่

ที่มา: ศูนยืวิจัยธนาคารออมสิน

คลิกที่นี่เพื่อออ่านรายงานฉบับเต็ม

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย