โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันพุธที่ 8 กรกฎาคมมีดังต่อไปนี้
1. ประเด็นฮ่องกงกระทบ HSBC แต่ดอลลาร์ฮ่องกงยังคงตัว
สหรัฐกำลังเฟ้นหาหนทางอื่นที่จะตอบโต้จีนเนื่องจากการละเมิดความเป็นเอกเทศของฮ่องกงด้วยการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติของจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังหาวิธีที่จะยกเลิกการซื้อขายคู่สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ ทว่าการกระทำเช่นนั้นอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินอย่างมาก
หุ้นของ HSBC ร่วงลงมากที่สุดในรอบสองเดือนเนื่องจากการกระทำดังกล่าวของสหรัฐอาจเป็นอุปสรรคแก่ธนาคารฮ่องกงในการซื้อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในอนาคต ทว่าค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงยังคงตัวและดัชนี Hang Seng ขยับขึ้น 0.6%
2. ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ประจำวันสูงกว่า 60,000 รายเป็นครั้งแรก และรัฐเท็กซัสก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 10,000 ราย
ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารขององค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า คงไม่เป็นเรื่องที่่นาแปลกใจหากยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากการระบาดได้เกิดขึ้นซ้ำสองไม่ใช่แค่เพียงในสหรัฐ แต่ยังพบการระบาดในแถบละตินอเมริกาและอินเดียอีกด้วย
ทั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า เขาจะกดดันให้โรงเรียนประถมและมัธยมต้องเปิดเทอมภายในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงให้ได้ เพราะจะทำให้ผู้ปกครองของเด็กสามารถกลับไปทำงานได้ แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลสหรัฐก็ยังไม่ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการว่าจะต้องทำอย่างไรโรงเรียนจึงจะสามารถเปิดเทอมได้อย่างปลอดภัย
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดหลายทิศทาง และ Allstate จ่อซื้อกิจการ National General
ตลาดหุ้นสหรัฐอาจคงตัวหรือปรับตัวลงหลังจากปรับตัวขึ้นมาห้าวันติดต่อกัน หลังตลาดมีความกังวลว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอาจกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้าขยับลง 33 จุดหรือ 0.1% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าติดลบไม่ถึง 0.1% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 0.2%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลงแต่ตลาดหุ้นจีนยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Bed Bath & Beyond จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกหลังเวลาตลาดปิด และหุ้นที่น่าจับตาในวันนี้คือบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ Allstate ที่ได้ตกลงซื้อกิจการบริษัทคู่แข่ง National General เป็นมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
4. ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบเก้าปี
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นเหนือ $1,800 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบเก้าปี ขณะที่ความหวาดหวั่นต่อการระบาดระลอกที่สองและความคาดหวังต่อการปรับนโยบายให้มีความผ่อนคลายมากขึ้นของเฟดล้วนดึงดูดให้ผู้ลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงมากขึ้น
อ้างอิงจากสภาทองคำโลก กองทุน ETF ของทองคำได้มีกระแสเงินสดไหลเข้าสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 โดยเพียงแค่เดือนมิถุนายนเดือนเดียวก็มีการสั่งซื้อทองคำเพิ่มถึง 104 ตัน ทำให้การถือครองทองคำทั่วโลกอยู่ที่ระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 3,621 ตัน
ทางด้านฝั่งยุโรป ประธานธนาคารกลางยุโรป คริสทีน ลาการ์ด ได้เน้นย้ำในบทสัมภาษณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะยังไม่ทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อไปอีกสักพักหลังจากเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินเป็นมูลค่าเกือบสองเท่า
5. สหราชอาณาจักรเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย 'งบประมาณย่อย' จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ Rishi Sunak
คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะประกอบไปด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานไฟฟ้าในครัวเรือนและอาคารพาณิชย์เป็นมูลค่า 3 พันล้านปอนด์, การสนับสนุนศิลปะและการบันเทิงเป็นมูลค่า 1.5 พันล้านปอนด์ และเงินสนับสนุนรายได้สำหรับเยาวชนเป็นมูลค่า 2 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจะมีการยกเว้นภาษีค่าโอนที่อยู่อาศัยด้วยเพื่อฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์สหราชอาณาจักร
ความคืบหน้าครั้งนี้ตามมาหนึ่งวันให้หลังจากที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ได้แจ้งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เกิลว่า สหราชอาณาจักรพร้อมตั้งรับกรณีที่ไม่มีข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านปัจจุบันของ Brexit ในสิ้นปีนี้ โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.1% เท่ากับ 1.2525 ดอลลาร์สหรัฐและ 1.1113 ยูโร