รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้ ( 8 ก.ค.)

เผยแพร่ 08/07/2563 13:56
อัพเดท 08/07/2563 14:04
© Reuters.

โดย Detchana.K

Investing.com - ศูนย์วิจัยกรุงศรีเผยรายงานเศรษฐกิจไทย เจอมรสุมโควิด-19 เล่นงานอ่วมกว่าที่เคยคาดไว้ ทำให้ต้องหั่น GDP ลงอีกจากเดิมประเมินไว้ที่ -5.0% ปรับลดลงมาเป็น -10.3% นับว่าเป็นตัวเลข GDP ที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ เลวร้ายกว่าช่วงวิกฤตการเงินเอเชียในปี 2541 สถานการณ์โควิด-19 ในไทย แม้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยนานกว่า 1 เดือน แต่การระบาดทั่วโลกยังคงรุนแรงโดยเฉพาะกลุ่มประเทศฝั่งตะวันตก และยังมีการกลับมาระบาดรอบสองในหลายประเทศ การระงับการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวยังฟื้นได้ยาก ติดตามรายละเอียดพร้อมประเด็นสำคัญที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้

1.ศูนย์วิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยสู่ระดับต่่าสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -10.3%

วิจัยกรุงศรีประเมินเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รุนแรงกว่าที่ เคยคาดไว้มาก โดยอาจทำให้ GDP ในไตรมาส 2 ติดลบถึง 17% YoY (เดิมคาด กว่า 8%) ปัจจุบันแม้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยนานกว่า 1 เดือน แต่การระบาดทั่วโลกยังคงรุนแรงโดยเฉพาะกลุ่มประเทศฝั่งตะวันตก และยังมีการกลับมาระบาดรอบสองในหลายประเทศ การระงับการเดินทางระหว่างประเทศยังคงดำเนินต่อไป ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย

ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จะทำให้ GDP ปีนี้ลดลงแรงถึง 10.6% และยังมีปัจจัยลบจากความล่าช้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและปัญหาภัยแล้งซึ่งจะลดทอน GDP ปีนี้ลงอีก 1.0% และ 0.4% ตามลำดับ ส่วนปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีส่วนหนุน GDP ได้ราว 1.7% ทั้งนี้ นโยบายการเงินและการคลังที่ประกาศออกมาอาจจะไม่เพียงพอในการยับยั้งการถดถอยของเศรษฐกิจ และอาจไม่มากพอที่จะกระตุ้นให้การเกิดการใช้จ่ายของภาค ครัวเรือนและการลงทุนของภาคเอกชน โดยรวมแล้ววิจัยกรุงศรีจึงคาดว่า เศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวที่ -10.3% (เดิม -5.0%) เลวร้ายกว่าช่วงวิกฤตการเงิน เอเชียในปี 2541

สำหรับสถานการณ์ในต่างประเทศ การแพร่ระบาดแนวโน้มยาวนานกว่าเดิมที่คาดไว้ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้คาดว่าจะหดตัวถึง -83% จากเดิมคาดว่าจะ -60% แม้หลังจากนี้อาจมีการเปิดให้ท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทาง (Travel Bubble) ก็ตาม ประกอบกับอุปสงค์ภายในประเทศยังมีความอ่อนแอสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่หดตัว ยังคงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

2. TFEX เพิ่ม Stock Futures อีก 12 ตัว หลายตัวเป็นหุ้นขวัญใจมหาชน

วันที่ 13 ก.ค. 63 ทาง TFEX จะเพิ่ม Stock Futures ให้ซื้อขายได้อีก 12 ตัว รวมเป็น 122 ตัว โดยมีหุ้นอ้างอิงคือ BPP, EASTW, JMT, M, MBK, OSP, THG, TOA, TPIPP, TQM, VNT, WHAUP

บล.หยวนต้าเผยว่าจากข้อมูลในอดีต พบว่าหุ้นอ้างอิงมักตอบ รับเชิงบวกทั้งก่อนและหลัง Stock Futures เข้าเทรด สาเหตุเป็นเพราะนักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้นและสามารถเพิ่มผลตอบแทนผ่านอัตราทดของ Futures ได้

หุ้นที่ถูกนำมาใช้เป็นหุ้นอ้างอิงของ Stock Futures มักมีแรง ซื้อเข้ามาก่อนที่ Stock Futures เริ่มเทรด และเมื่อเข้ามาเทรดแล้ว มักมีโมเมนตัมเชิงบวกอีก 5-10 วันทำการ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นกว่าช่วงที่ไม่มี Stock Futures หุ้นที่น่าสนใจคือ OSP, TOA, WHAUP, JMT, TQM เราคาดว่าจะเห็นโมเมนตัมเชิงบวกในช่วง 3 วันทำการข้างหน้า แต่อาจจะไม่ใช่ของดีราคาถูก จึงอาจจะเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงมากๆเท่านั้น

3. สำหรับในฝั่งสหรัฐวันนี้จับตาไปที่รายงานสต๊อกน้ำมันที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยก่อกวนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกต่อเนื่อง

รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ในวันนี้คาดว่าจะลดลงมากกว่า 3 ล้านบาร์เรล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสถาบันปริโตรเลียมอเมริกาเผยว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น สวนทางกับการคาดการณ์การว่าน่าจะลดลง ส่วนน้ำมันเบนซินกลับลดลงมากกว่าที่คาดคิด ส่วนสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐระบุว่า คาดว่าการผลิตน้ำมันสหรัฐในปี 2020 นี้จะลดลง 6 แสนบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากคาดการณ์ครั้งที่แล้วที่ 670,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ Bed Bath & Beyond Inc (NASDAQ:BBBY) จะรายงานผลประกอบการหลังเวลาตลาดปิดในวันนี้ โดยผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของบริษัทน่าจะได้รับผลกระทบจากร้านค้าที่ปิดตัวลงเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แม้ว่า InvestorPlace ชี้ว่าบริษัทได้ดำเนินการที่เหมาะสมหลายประการในการรับมือกับภาวะวิกฤต ได้แก่ การเลื่อนค่าใช้จ่ายในการลงทุนออกไปเป็นมูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งการยกเลิกแผนการซื้อหุ้นคืนและการลดเงินเดือนของคณะผู้บริหาร โดยหุ้นของ Bed Bath & Beyond Inc ทรุดตัวลงมาแล้วกว่า 34% นับตั้งแต่ต้นปี 2020

ติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ
https://th.investing.com/economic-calendar/

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย