โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายนมีดังต่อไปนี้
1. เฟดจำกัดการจ่ายผลตอบแทนของธนาคาร
ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดได้เตือนว่าขาลงทางเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอาจส่งผลให้ธนาคารสูญเสียรายได้ทั้งหมดเป็นมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐที่มีสาเหตุมาจากหนี้สูญ
เฟดได้แถลงผลทดสอบภาวะวิกฤตรายปีว่า แม้ว่าธนาคารต่าง ๆ จะมีเงินทุนมากพอแล้วที่จะรองรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แต่เฟดต้องการมั่นใจว่าจะเป็นเช่นนั้นต่อไป
ด้วยเหตุนี้เฟดจึงมีคำสั่งให้ธนาคารยกเลิกการซื้อหุ้นคืนในไตรมาสที่สาม (ธนาคารส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ซื้อหุ้นคืนเองอยู่แล้วในระยะเวลาสามเดือนที่สามมา) นอกจากนี้เฟดยังจำกัดการจ่ายผลตอบแทนให้อยู่ภายในอัตราเฉลี่ยของกำไรรายไตรมาสในช่วงสี่ไตรมาสที่ผ่านมาด้วย
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงในช่วงเวลาหลังตลาดปิดเมื่อวานนี้และเตรียมปิดลบ 1.2% ถึง 2.7% โดย Wells Fargo เป็นธนาคารที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
2. ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงส่งผลให้รัฐชะลอการเปิดเศรษฐกิจ
เมื่อวานนี้ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐสูงขึ้นถึง 37,000 ราย ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การระบาดในแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ฟลอริดา และอริโซนายังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เท็กซัสและฟลอริดาได้ประกาศพักการเปิดรัฐช่วยคราวภายหลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทว่าทั้งสองรัฐยังไม่ประกาศใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดกว่าเดิมแต่อย่างใด
ทางด้านรัฐบาลสหรัฐก็ได้ยื่นคำขอให้ศาลสูงสุดของสหรัฐพิจารณายกเลิกโครงการโอบามาแคร์หรือ Affordable Care Act ของรัฐบาลอดีตปธน. โอบามาในวันนี้
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก จับตา Facebook และ Amazon
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนบวกแต่ยังเตรียมปิดสัปดาห์ในแดนลบ ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าจะมีการบังคับใช้ข้อจำกัดใหม่เพื่อควบคุมการระบาด แม้ว่าทำเนียบขาวและผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ จะต่อต้านการล็อกดาวน์ครั้งใหม่อย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าดีดขึ้น 0.2% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าคงตัวและสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าไต่ขึ้น 0.2%
หุ้นที่จะเป็นที่น่าจับตาในวันนี้คือ Facebook หลังจากที่ Verizon เข้าร่วมรายชื่อบริษัทที่จะบอยคอตต์ Facebook เพื่อประท้วงต่อต้านบริษัทที่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมการใช้วาจาที่สร้างความเกลียดชังและการเผยแพร่เนื้อหาที่บิดเบือน ส่วนหุ้น Amazon.com ก็น่าจับตาหลังจากมีข่าวการซื้อกิจการบริษัทสตาร์ทอัพ Zoox เป็นมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
4. ลาการ์ดเชื่อว่าช่วงที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ธนาคารกลางยุโรป คริสทีน ลาการ์ด ได้กล่าวไว้ในการประชุมออนไลน์ว่า ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของการระบาดอาจสิ้นสุดลงแล้วอย่างน้อยก็ในยุโรป ซึ่งอัตราการระบาดเริ่มคงตัวมาราวหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพฤษภาคม
ทว่าลาการ์ดได้เตือนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะมีความไม่สม่ำเสมอกันและมีความ 'แปรสภาพ' และบ่งชี้ว่าการระบาดจะส่งผลให้บริษัทที่มีสภาพธุรกิจระยะยาวอยู่ในขาลงต้องสูญเสียกิจการ แม้ว่ารัฐบาลยุโรปจะไม่แบ่งแยกประเภทบริษัทที่รัฐบาลจะมอบเงินสนับสนุนมานับตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่คำกล่าวของลาการ์ดครั้งนี้ถือเป็นคำเตือนที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลยุโรปอาจไม่ช่วยเหลือบริษัทที่ 'ตายแล้ว' อีกต่อไป
ค่าเงินยูโรค่อนข้างคงตัวเมื่อซื้อขายคู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ $1.1227
5. สหราชอาณาจักรจ่อยกเลิกมาตรการควบคุมโรค
สหราชอาณาจักรเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษครั้งมีสาเหตุมาจากแรงกดดันโดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้ข่มขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อยกเลิกมาตรการดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้มีแรงงานว่างงานเพิ่มขึ้นหลายหมื่นรายไม่ใช่แค่เฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
เงินปอนด์อ่อนค่าลงและคงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ขยับขึ้น 1.6% และเป็นดัชนีที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในตลาดยุโรปวันนี้
เรื่องนี้ไม่ควรพลาด
♦ลาการ์ด โปรยยาหอม "เศรษฐกิจยูโรโซนอาจผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดแล้ว" ส่งหุ้นยุโรปดีดตัว
♦ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐสูงเป็นประวัติการณ์ เท็กซัสสั่งชะลอเปิดรัฐ
♦ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ สร้างจุดสูงสุดใหม่ทำให้ตลาดฟอเร็กซ์มีโอกาสปรับตัวลดลง
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้