โดย Peter Nurse
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคมมีดังต่อไปนี้
1. ทรัมป์ยังโจมตีจีนอย่างไม่หยุดยั้ง
ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ย่อถอยต่อการกล่าวโจมตีจีน และเมื่อคืนนี้ทรัมป์ได้กล่าวโทษว่าจีนเป็นต้นเหตุของการ "ฆ่าล้างประชากรโลก" เนื่องจากประสิทธิภาพในการรับมือกับการระบาดของจีน
ในทวีตของทรัมป์หลายทวีต ทรัมป์ได้กล่าวหาว่าจีนเป็นผู้แพร่กระจาย "ความเจ็บปวดและการฆ่าล้าง" ทั่วโลก และตั้งเป้าโจมตีไปที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นการส่วนตัวด้วยการกล่าวว่า "ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากเบื้องบน"
แม้ว่าการกล่าวโจมตีเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีนัยยะทางการเมือง เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนให้กล่าวโทษจีนว่าเป็นต้นเหตุของพิษเศรษฐกิจล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน แต่ถึงกระนั้นการกระทำเช่นนี้ก็ได้สร้างความกังวลต่อความสั่นคลอนของข้อตกลงทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ได้มีการทำข้อตกลงเมื่อปีที่แล้วด้วย
2. ยอดผู้ติดเชื้อแตะ 5 ล้านรายทั่วโลก
อ้างอิงจากข้อมูลที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รวบรวมมา ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกได้แตะ 5 ล้านรายแล้ว
ตัวเลขล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากแตะยอด 4 ล้านรายทั่วโลก
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อขณะนี้ยังอยู่ที่ประมาณ 328,000 ราย
ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ฝั่งยุโรปและสหรัฐเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์แล้ว แต่การระบาดก็ยังเป็นไปอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอื่น ๆ บนโลก
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เตือนว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนายังใช้เวลาอีกนานกว่าจะสิ้นสุดลง และได้รายงานเมื่อวานนี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในสัปดาห์นี้ โดยมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 100,000 รายภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
3. ตลาดหุ้นมีแววเปิดตัวในแดนลบ
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีนอาจนำพาไปสู่อุปสรรคทางการค้าในอนาคต
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้า ติดลบ 154 จุดหรือ 0.6% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ขยับลง 0.6% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ติดลบ 0.6%
หุ้นที่น่าจับตาในวันนี้คือ Ford (NYSE:F) หลังจากบริษัทจำเป็นต้องปิดโรงงานสองแห่งเนื่องจากมีการตรวจพบพนักงานที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยโรงงานทั้งสองแห่งเพิ่งกลับมาเปิดดำเนินงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากหยุดการผลิตไปเกือบสองเดือน
Best Buy (NYSE:BBY) เตรียมรายงานผลประกอบการในวันนี้ และจะรายงานก่อนเวลาตลาดเปิด
4. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ
ผู้ลงทุนจะจับตา จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ ประจำสัปดาห์ในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (12:30 GMT) โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขจะออกมาลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลงไม่มากเนื่องจากยังมีบริษัทจำนวนมากที่ยังปลดพนักงานออกเรื่อย ๆ
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกคาดว่าจะอยู่ที่ 2.4 ล้านราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 3 ล้านราย ส่วน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 24.8 ล้านราย
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ได้มีการรายงานในช่วงครึ่งแรกของวันนี้นั้นไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก
ทางฝั่งเอเชีย ข้อมูลทางการค้าของญี่ปุ่นประจำเดือนเมษายนทรุดตัวลง 21.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายงานการค้าจากเกาหลีใต้ก็มีอัตราการส่งออกในเดือนพฤษภาคมที่อาจลดลงมากกว่า 20% เป็นเดือนที่สอง
5. ราคาน้ำมันมุ่งหน้าสู่แดนบวก
ราคาน้ำมัน ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่หกติดต่อกัน ซึ่งเป็นขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 15 เดือน หลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังอย่างเป็นทางการของสหรัฐออกมาลดลง
EIA เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ที่แล้วที่ ลดลง 4.98 ล้านบาร์เรล ถือว่าลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม และใกล้เคียงกับตัวเลขของสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) ที่คาดว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สัปดาห์ที่แล้วลดลงไป 4.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ ได้ทะยานขึ้นมากกว่า 80% ในเดือนนี้เนื่องจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันเริ่มเกิดผลและอุปสงค์เริ่มหวนกลับคืนมา