โดย David Milliken
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจากผลสำรวจทางธุรกิจว่า เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรกำลังมุ่งหน้าสู่สภาวะหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดถึง 7% หลังจากมาตรการล็อกดาวน์ได้บีบบังคับให้หลายบริษัทจำเป็นต้องปิดตัวลงเมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ยอดขายยานยนต์ในสหราชอาณาจักรประจำเดือนเมษายนที่เผยแพร่ออกมาในวันนี้ก็ทรุดตัวลงสู่ระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1946 เนื่องจากการปิดโชว์รูมต่าง ๆ ในขณะที่แรงงานจำนวนหนึ่งในสี่จำเป็นต้องพักงานและรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล
IHS Markit เผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคกิจการบริการทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สมัยเริ่มเก็บข้อมูลผลสำรวจในปี 1996 โดยค่าดัชนีในเดือนเมษายนลดลงเหลือ 13.4 จากเดือนมีนาคม 34.5 แต่ถึงกระนั้นก็ดีกว่าผลคาดการณ์เล็กน้อยจากที่คาดไว้ว่าจะเท่ากับ 12.3
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ออกมาย่ำแย่เช่นเดียวกัน ดังนั้น IHS Markit จึงชี้ว่าเมื่อพิจารณาจากสองตัวเลขนี้แล้ว เศรษฐกิจอังกฤษจึงน่าจะทรุดตัวลงครั้งใหญ่ที่สุด "ในประวัติศาสตร์" เลยทีเดียว
ทางด้านดัชนี PMI รวมของทั้งสองภาคส่วนประจำเดือนเมษายนได้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.8 จากค่าดัชนีเดือนมีนาคม 36.0 ซึ่งนำไปสู่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศรายไตรมาสที่คาดว่าจะทรุดตัวลงถึง 7%
Tim Moore นักเศรษฐศาสตร์จาก IHS Markit กล่าวว่า "พวกเราคาดว่าตัวเลข GDP ที่แท้จริงอาจจะหดตัวลงมากกว่านี้"