รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนวันนี้ (7 เม.ย.)

เผยแพร่ 07/04/2563 17:28
อัพเดท 07/04/2563 17:38
© Reuters.

© Reuters.

โดย Geoffrey Smith

Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนในวันอังคารที่ 7 เมษายนมีดังต่อไปนี้

1. ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012

ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี ขณะที่กระแสเงินสดยังคงหลั่งไหลเข้าสู่กองทุน ETF, ทองคำแท่งและเหรียญทองคำ ท่ามกลางความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำหรือติดลบไปอีกในระยะยาว

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในการส่งมอบของตลาดโคเม็กซ์ได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ $1,742.20 ต่อทรอยออนซ์เมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะย่อตัวลงไปยืนอยู่เหนือระดับ $1,702 ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 6:35 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1035 GMT)

ขาขึ้นครั้งล่าสุดตามมาหลังจากมีรายงานเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐกำลังเตรียมร่างแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจเฟสที่ 4 ที่อาจมีมูลค่าราว 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

2. ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปอีก ท่ามกลางความหวังต่อข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมัน

ราคาน้ำมันพลิกฟื้นขึ้นอีกครั้งหลังมีความหวังว่าบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกจะร่วมมือกันเพื่อลดกำลังการผลิตในการประชุมทางไกลที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ โดยราคาสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวขึ้น 3.1% เท่ากับ $26.91 ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ปรับตัว 2.4% เท่ากับ $33.83 ต่อบาร์เรล

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม OPEC+ (ซึ่งรวมถึงรัสเซียด้วย) และรายงานว่า การทำข้อตกลงจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะสหรัฐเข้าร่วมข้อตกลงครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้รายงานดังกล่าวยังเผยอีกว่าประเทศต่าง ๆ ใน OPEC+ ต้องการให้ทั้งแคนาดาและบราซิลลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วยเช่นกัน

การที่สหรัฐไม่สามารถควบคุมกำลังการผลิตภายในประเทศได้ ทำให้นักวิเคราะห์หลายท่านเริ่มตั้งข้อสังเกตว่าข้อตกลงครั้งนี้จะตั้งเป้าหมายราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเป็นการบีบบังคับให้ผู้ผลิตหินน้ำมันในสหรัฐรายย่อยหลายรายต้องล้มละลาย

ทั้งนี้การประชุมของกลุ่มผู้นำด้านพลังงาน G20 ซึ่งจะประกอบไปด้วยประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องยกเว้นนอร์เวย์ จะมีกำหนดการจัดขึ้นในวันศุกร์นี้

3. ตลาดหุ้นทั่วโลกเตรียมเปิดตัวในแดนบวก, แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจจากสหรัฐและยุโรปหนุนความเชื่อมั่นในตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนบวกอีกครั้ง ได้รับแรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าของแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจเฟสที่ 4 ของสหรัฐที่ได้ประกาศออกมาในช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้

รายงานข่าวดังกล่าวได้ผลักดันให้ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ทะยานขึ้น และหนุนให้ดัชนีหลักทั้งหมดของสหรัฐปรับตัวขึ้นมากกว่า 7%

เมื่อเวลา 6:35 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้า ปรับตัวขึ้น 804 จุดหรือราว 3.6% ส่วน สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 3.1% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับตัวขึ้น 2.9%

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียต่างก็ปรับตัวขึ้นหลังจากขาขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ และจากข้อมูลทางฝั่งยุโรปที่บ่งชี้ว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในยุโรปเริ่มเข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว ล่าสุดสเปนได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน ส่วนอิตาลีและเยอรมนีต่างก็มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

4. นายบอริส จอห์นสันยังคงอยู่ในไอซียู

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ยังรู้สึกตัวและอาการทรงตัวอยู่ในหน่วยดูแลผู้ป่วยวิกฤตหรือไอซียู หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยด่วนเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่กรุงลอนดอน

ถึงกระนั้นประชาชนกลับไม่เชื่อถือข้อมูลจากรัฐมนตรี ไมเคิล โกฟ ที่ได้ยืนยันในวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้คำมั่นว่าจะมีการแถลงการณ์อย่างเต็มรูปแบบหากสุขภาพของนายจอห์นสันย่ำแย่ลง

ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงและหุ้นในสหราชอาณาจักรไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากความคืบหน้าครั้งนี้ และยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป

5. เฟดเคลื่อนไหวเพื่อคลายความตึงตัวในประเทศตลาดเกิดใหม่, อนุมัติวงเงิน Repo 6 หมื่นล้านฯ แก่อินโดนิเซีย

เฟดได้เห็นชอบการมอบวงเงินการทำธุรกรรมซื้อคืนหรือ Repo เป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐแก่อินโดนิเซีย ซึ่งตลาดทางการเงินของอินโดนิเซียได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่

ประเทศอินโดนิเซียได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเนื่องด้วยอัตราการทดสอบหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประชากรภายในประเทศกว่า 200 ล้านราย โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 221 รายถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริง (เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ เนื่องจากจำนวนดังกล่าวไม่รวมผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้เสียชีวิตในโรงพยาบาล)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นราว 20% เมื่อเทียบกับเงินรูเปียห์ของอินโดนิเซียนับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสในช่วงเดือนมกราคม และเงินดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้นในอัตราที่คล้ายคลึงกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ หลังจากกระแสเงินทุนเริ่มติดขัดเพราะแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

เงียบเลย แอดมีนยังไง
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปอีก เอาข่าวมาจากไหนครับ เมื่อวานข่าวออกมา น้ำมันลง ปิดมากก่วา 5/100
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย