โดย Kim Khan
Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. ตัวเลขจากตลาดแรงงานสหรัฐ
ในวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (12:30 GMT)
ตลาดจะยังคงจับตาตัวเลขนี้แม้จะทราบดีว่าเป็นข้อมูลในอดีตที่ห่างไกลจากเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างมากก็ตาม
ผลสำรวจเมื่อวานนี้เก็บข้อมูลจนถึงสัปดาห์ของวันที่ 12 มีนาคม ก่อนที่รัฐใด ๆ ในสหรัฐจะประกาศปิดรัฐเสียด้วยซ้ำ
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า การจ้างงานนอกภาคการเกษตร จะออกมาเท่ากับ 100,000 ตำแหน่ง และเมื่อวานนี้เราก็ได้ทราบกันไปแล้วว่ามีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐถึง 6.6 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว
และคาดว่า อัตราการว่างงาน จะสูงขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.8% และ รายได้โดยเฉลี่ยต่อชั่วโมง คาดว่าจะสูงขึ้น 0.2%
นอกเหนือจากข้อมูลต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ตัวเลขสำคัญที่ควรจับตาคืออัตราการเปลี่ยนไปทำงานพาร์ทไทม์เนื่องด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดย Martha Gimbel นักเศรษฐศาสตร์จาก Schmidt Futures ได้ทวีตว่า
“หากเราพิจารณาความเปราะบางของสถานการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม (ดูเหมือนเป็นช่วงเวลาที่แสนยาวนาน) ก็เป็นไปได้ที่ผู้ว่าจ้างจะลดชั่วโมงการทำงานของลูกจ้างและอัตราการทำงานพาร์ทไทม์อย่างไม่สมัครใจจึงก้าวกระโดด"
ทั้งนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Goldman Sachs (NYSE:GS) ได้คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า อัตราการว่างงานในไตรมาสที่ 2 จะเท่ากับ 13.2% และจะสูงขึ้น 15% เมื่อถึงช่วงกลางปี
2. ตลาดน้ำมันต้องการปัจจัยชี้นำ
ตลาดน้ำมันพุ่งทะยานอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อวานนี้ และดูเหมือนจะได้รับแรงกระตุ้นจากทวีตของปธน.ทรัมป์ที่แสดงความคาดหวังต่อการลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียงเท่านั้น
ราคาน้ำมันถล่มลงมาอย่างหนักจนไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดการทะยานกลับขึ้นมา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นเช่นเดียวกันกับทุก ๆ ครั้งที่ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองออกมาทวีต ผู้ลงทุนและเทรดเดอร์ต่างก็ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนความเคลื่อนไหวครั้งนี้
Wall Street Journal รายงานว่า ซาอุดีอาระเบียยินดีที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเหลือราว 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมองความคาดหวังของปธน.ทรัมป์ที่ต้องการให้ลดกำลังการผลิต 10 ถึง 15 ล้านบาร์เรลต่อวันว่า "เกินความเป็นจริง"
รัสเซียยังคงสงวนท่าที แต่หากรัสเซียมีความเคลื่อนไหวใด ๆ ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในตลาดน้ำมันเช่นกัน
3. ดัชนีกิจการบริการจาก ISM คาดว่าจะดิ่งลง
ข้อมูลทางเศรษฐกิจชุดสุดท้ายสำหรับสัปดาห์นี้จะประกาศหลังจากเวลาตลาดเปิด โดยสถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) จะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคกิจการบริการประจำเดือนมีนาคม
ดัชนีจะรายงานออกมาในเวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:00 GMT) และคาดว่าจะหดตัวลงหลังจากตัวเลขครั้งก่อนออกมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า ดัชนี PMI นอกภาคการผลิตจาก ISM ในเดือนมีนาคมจะลดลงเหลือ 44 จากเดือนกุมภาพันธ์ 57.3
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ประกาศออกมาในช่วงนี้ หากดัชนีออกทรุดตัวลงก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก แต่ก็ควรตระหนักไว้ว่าค่าดัชนีที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การออกค่าดัชนีเมื่อปี 1997 คือ 37.3 ในเดือนมีนาคมของปี 2008 ท่ามกลางการเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่