InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (12 พ.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวโอเปกปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้และปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.12% ปิดที่ 68.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 71.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนพ.ย. โดยระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 1.82 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ลดลงจากระดับ 1.93 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 1.54 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ลดลงจากระดับ 1.64 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ โอเปกได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนพ.ย.
แม้ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงกว่า 5% ในช่วง 2 วันที่ แต่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่นักลงทุนผิดหวังกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของจีน
บ็อบ ยอว์เกอร์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัท Mizuho กล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันคือทีมนโยบายต่างประเทศที่โดนัลด์ ทรัมป์กำลังจัดตั้ง โดยมีรายงานว่าทรัมป์จะเลือกมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกสหรัฐเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา รูบิโอสนับสนุนการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าวกับประเทศที่เป็นปรปักษ์ทางภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ รวมถึงจีน อิหร่าน และคิวบา
ยอว์เกอร์กล่าวว่า ทีมนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ ซึ่งอาจรวมถึงรูบิโอด้วยนั้น จะเพิ่มแรงกดดันให้กับจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันจากจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก