รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (11-15 ก.พ.)

เผยแพร่ 10/02/2562 19:07
อัพเดท 10/02/2562 19:07
© Reuters.

Investing.com - ข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าโลกน่าจะยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญต่อความมั่นใจของนักลงทุนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

1. การพูดคุยที่กรุงปักกิ่ง

หลังจากการพูดคุยที่กรุงวอชิงตันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งสองชาติจะเริ่มต้นเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้

การพูดคุยครั้งใหม่นี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ นำโดย นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง และเจฟฟรีย์ เกอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเข้าร่วมประชุมกับฝั่งจีนในวันพฤหัสและศุกร์

ทำเนียบข่าวได้แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวแทนเจรจาของสหรัฐฯ เตรียมที่จะยืนยันข้อเรียกร้องเดิมต่อจีน โดยเฉพาะเรื่องมาตรการจัดการการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายที่บังคับให้บริษัทของสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่อบริษัทจีน

2. คำกล่าวของประธานเฟด

มีกำหนดการสุนทรพจน์โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ คำกล่าวของประธานเฟดที่อาจส่งสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในวันอังคารนี้

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้าร่วมงาน Hope Enterprise Corporation Rural Policy Forum ในรัฐมิสซิสซิปปี วันอังคารนี้ เวลา 5:45PM ET (22:45 GMT)

3. ดัชนีราคาผู้บริโภค

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดิือนมกราคม เวลา 8:30AM ET (13:30 GMT) ในวันพุธนี้ ซึ่งน่าจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อว่าจะเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วมากน้อยแค่ไหน

ดัชนีราคาผู้บริโภคถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนที่ผ่านมา จากที่เคยปรับลง 0.1% เมื่อเดือนธันวาคม ขณะที่เมื่อเทียบฐานปีแล้ว ตัวเลขใหม่นี้ถูกมองว่าน่าจะขยับขึ้น 1.5% ลดลงจาก 1.9% ของเดือนก่อนหน้านี้

4. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ จะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนธันวาคมในวันพฤหัสนี้ เวลา 8:30AM ET (13:30 GMT) ซึ่งนักลงทุนหลายคนจะจับจาตามองตัวเลขดังกล่าวเหมือนเป็นสัญญาณของกำลังซื้อในหมู่ผู้บริโภค

การพยากรณ์ส่วนใหญ่มองว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากที่เคยเพิ่มมาแล้ว 0.2% เมื่อเดือนพฤศจิกายน ขณะที่หากไม่นับกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ยอดค้าปลีกนั้นถูกมองว่าจะมีตัวเลขคงที่

5. ใกล้สิ้นสุดฤดูกาลประกาศผลประกอบการ

ในสัปดาห์นี้มีบริษัทในตลาด S&P 500 จำนวนทั้งสิ้น 60 แห่งที่จะประกาศผลดำเนินงาน หลังจากบริษัทส่วนใหญ่ได้ประกาศตัวเลขไปแล้วก่อนหน้านี้

บริษัทที่จะเปิดเผยตัวเลขในวันจันทร์นี้ รวมถึง Loews (NYSE:L), Diamond Offshore Drilling (NYSE:DO), Chegg (NYSE:CHGG) และ Kemper (NYSE:KMPR)

ส่วนในวันอังคาร นักลงทุนจำนวนไม่น้อยกำลังจับตารายงานจากบริษัทอย่าง Under Armour (NYSE:UAA) ส่วนวันพุธ บริษัทที่จะประกาศผลกำไรขาดทุนนั้นรวมถึง Cisco (NASDAQ:CSCO), Teva (NYSE:TEVA), AIG (NYSE:AIG), Yelp (NYSE:YELP) และ TripAdvisor (NASDAQ:TRIP)

ขณะที่ Coca-Cola (NYSE:KO) และ NVIDIA (NASDAQ:NVDA) เป็นส่วนหนึ่งของหลายบริษัทที่จะเปิดเผยผลดำเนินงานในวันพฤหัส ก่อนที่วันศุกร์ จะเป็นคิวของ PepsiCo (NASDAQ:PEP) และบริษัทอื่น ๆ เช่น Deere (NYSE:DE), Newell Brands (NASDAQ:NWL) และ Enbridge (NYSE:ENB)

ความคิดเห็นล่าสุด

ติดตามตลอดครับ ได้รับรู้เรื่องดีๆมาก
สุดยอดครับ
สุดยอดครับ
ดีคับ
ดีคับ
ดีมาก มีประโยชน์ ต่อนักลงทุน
ดีครับ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย