โดย Detchana.K
Investing.com - สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ราคาน้ำในดิบในตลาดโลกปรับฐานขึ้นมาอย่างมากหลังจากทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน หลังจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรหั่นปริมาณการผลิตน้ำมันลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน วันอังคารและวันพุธนี้โอเปกจะจัดประชุมระดับคณะกรรมาธิการ เกี่ยวกับข้อเสนอแนะในการปรับลดกำลังการผลิตในระดับต่อไป หลังจากที่สมาชิกกลุ่มยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยเดือนพฤษภาคม การลดทอนการผลิตอยู่ที่ 77% และขยับขึ้นมาเป็น 107% ในเดือนมิถุนายน ติดตามเรื่องนี้พร้อมประเด็นสำคัญที่นักลงทุนควรรู้สำหรับวันนี้และสัปดาห์นี้
1.การประชุมโอเปกในวันพุธนี้แม้ไม่ใช่ประชุมใหญ่ แต่มีความสำคัญมากต่อทิศทางราคาน้ำมัน
กลุ่มโอเปก เตรียมจัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการลดปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศสมาชิก ในระดับ Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) มีการคาดว่าโอเปกและรัสเซียจะคลายการหั่นการผลิตน้ำมันลง จาก 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากอุปสงค์และราคาเริ่มฟื้นตัว
คุณกิตพน กิตติอำพน นักวิเคราะห์ราคาน้ำมันโลกได้ให้ความเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบโลกได้ทยอยปรับขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนมาจนถึงช่วงกลางเดือนมิถุนายน โดย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ได้ดีดตัวขึ้นมาเกือบ 2 เท่า จากราคา 25 เหรียญต่อบาร์เรลมาจนถึงระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบันนั้น ราคาน้ำมันดิบ Brent กลับขยับตัวอยู่ในกรอบแคบๆแค่ที่ 40-44 เหรียญต่อบาร์เรลเท่านั้น ยังไม่เคยหลุดกรอบนี้ มาตลอดเป็นเวลากว่า 25 วันแล้ว
และไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะทั้งตลาดนั้นกำลังรอผลการประชุมของกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 15 กรกฎาคมนี้ และตราบใดที่โอเปกยังไม่ตัดสินใจที่จะประกาศมาตรการต่อไปของทางกลุ่มออกมา นักลงทุนและเทรดเดอร์น้ำมันในตลาดก็ยังไม่กล้าที่จะดันหรือกดราคาให้หลุดออกจากกรอบนี้ไปได้
อ่านบทวิเคราะห์♦กลุ่มโอเปก = ธนาคารกลางแห่งตลาดน้ำมันโลก
2.เงินบาทอ่อน สวนทางสกุลเงินภูมิภาค สัปดาห์นี้มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบ 31.05-31.45 ต่อ ดอลลาร์
เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดอ่อนค่าที่ 31.28 ต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 31.04-31.35 โดยเงินบาทสวนทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคซึ่งได้แรงหนุนจากเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางความต้องการดอลลาร์ของภาคธุรกิจรวมถึงราคาทองคําที่ผันผวน
เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบ 31.05-31.45 ต่อ ดอลลาร์ กดดูอัพเดตอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ล่าสุด ตลาดโลกจะติดตามผลการพัฒนาวัคซีนและยา รักษา COVID-19, การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) วันที่ 15 ก.ค.รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) วันที่ 16 ก.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประชุมสุดยอดผู้นําสหภาพยุโรปช่วงท้ายสัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินยูโร เนื่องจากตลาดตั้งความหวังไว้ว่าจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เกี่ยวกับกองทุนฟื้นฟู (EU Recovery Fund) วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด จากการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่การเข้าสู่ฤดูร้อนของซีกโลกตะวันตกอาจทําให้สภาพคล่องการซื้อขายในตลาด การเงินลดต่ำลง ส่งผลให้ความผันผวนสูงขึ้นได้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ระบุว่าเสถียรภาพระบบการเงินไทยเปราะบางเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่หดตัวมากกว่าคาด ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่มีแนวโน้มติดลบ กนง.เห็นว่าไม่ได้แสดงว่าไทยกําลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินฝืด ขณะที่กนง.เน้นย้ำว่า มาตรการทางการคลังที่ตรงจุดและทันท่วงที นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อมีความจําเป็นต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งประเมินว่า นโยบายการคลังยังมีขีดความสามารถรองรับการฟื้นฟูและ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจได้ อนึ่ง เราคาดว่าทิศทางนโยบาย ของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ในระยะถัดไปจะมีความสําคัญต่อความเชื่อมั่นของตลาดท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่ท้าทายสูง
3. ทั้งนักลงทุนและนักวิเคราะห์ยังมองราคาทองคำสัปดาห์นี้เป็นกระทิงคึก
ศูนย์วิจัยทองคำเผยผลสำรวจทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 13 – 17 ก.ค. 63 จากการสำรวจ GRC Gold Survey
12 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 5 ราย หรือเทียบเป็น 42% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้จะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 25% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 33% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 341 ราย ในจำนวนนี้มี 221 ราย หรือเทียบเป็น 65% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์นี้จะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 64 ราย หรือเทียบเป็น 19% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 56 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับความเคลื่อนไหวรายสัปดาห์ ราคาทองคำสำหรับเดือนสิงหาคมดีดขึ้น 0.8% ขณะราคาทองคำโลกบวกขึ้น 1.4%
Ed Moya นักวิเคราะห์จาก OANDA ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า “ภาพรวมระยะสั้นของทองคำยังคงมีความเป็นตลาดกระทิงอย่างมาก เนื่องจากประเด็นขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนน่าจะปะทุขึ้นอีกในสัปดาห์นี้ ส่วนตลาดจะเตรียมรับมือกับการปลดพนักงานครั้งใหญ่ขณะที่ธนาคารต่าง ๆ ออกมารายงานผลประกอบการ และการระบาดของโควิด-19 ในแถบสหรัฐและละตินอเมริกาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงแม้แต่น้อย"