โดย Ambar Warrick
Investing.com – หุ้นเอเชียร่วงลงในวันจันทร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการจำกัดการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์จากจีนของสหรัฐฯ แย่ลง โดยรายงานที่ Apple (NASDAQ:AAPL) กำลังวางแผนที่จะยกเลิกการใช้ชิปของจีน และยังมีความกลัวต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยางรวดเร็วจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงมีน้ำหนักมากในตลาด
ดัชนีหุ้นบลูชิพของจีน CSI 300 ลดลง 0.4% ในขณะที่ดัชนี เซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ลดลง 0.1% ดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันจันทร์ว่าผู้ผลิต iPhone Apple Inc ได้หยุดแผนการใช้ชิปหน่วยความจำจาก Yangtze Memory Technologies ของจีนในผลิตภัณฑ์ของบริษัทชั่วคราว
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในการจัดหาชิปไปยังจีนเพียงสัปดาห์เดียว ขณะที่กำลังดำเนินการกดดันทางเศรษฐกิจต่อปักกิ่งด้วยการยับยั้งความพยายามในการผลิตชิป
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับความกลัวว่าปักกิ่งจะตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตรจากฝั่งจีน และสร้างความเสียหายต่อการค้าโลกต่อไป
หุ้นฮ่องกงร่วงลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากมีบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯฯ ดัชนี ฮั่งเส็ง ลดลงมากกว่า 1% โดยมีหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Baidu (HK:9888) Alibaba (HK:9988) และ Tencent (HK:{ {102047|0700}}) ที่หุ้นได้ร่วงลงอยางมาก
ตลาด หุ้นไต้หวัน ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐฯ โดยลดลง 1.4% Taiwan Semiconductor Manufacturing Corp (TW:2330) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก หุ้นร่วงลง 6% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ความเชื่อมั่นที่มีต่อจีนได้รับผลกระทบมากขึ้นจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยระบุว่าจีนไม่มีความตั้งใจที่จะปรับปรุงนโยบายที่เข้มงวดของโควิด19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปีนี้
แต่คำมั่นสัญญาของมาตรการที่จะดำเนินการนโยบายที่เป็นมิตรต่อตลาดช่วยจำกัดการขาดทุนในหุ้นจีน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกดดันจากความกลัวว่าอัตราดอกเบี้ยจะพุ่งสูงขึ้น ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้ตลาดในขณะนี้ ได้กำหนดโอกาศเหือบ 100% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดพื้นฐานในเดือนหน้า
ตลาดต่าง ๆ ในเอเชียปรับตัวลดลงจากแนวคิดนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้แนวโน้มรายได้ของภาคส่วนส่วนใหญ่ลดลง อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อหุ้นเอเชียในปีนี้ จากการที่สภาวะสภาพคล่องตึงตัวและดันอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ให้อยู่ระดับต่ำ
ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 1.4% ในขณะที่ดัชนี Nifty 50 ของอินเดียร่วงลง 0.2%
หุ้นออสเตรเลียร่วงลงเนื่องจากโอกาสที่เศรษฐกิจจีนจะอ่อนตัวลงส่งผลต่อ หุ้นของบริษัทขุดเหมืองรายใหญ่อย่าง BHP Group Ltd (ASX:BHP) และ Rio Tinto Ltd (ASX:RIO) ที่หุ้นร่วงลงไปประมาณ 3% ต่อบริษัท ขณะที่จุดสนใจมุ่งไปที่รายงานการผลิตสำหรับไตรมาสเดือนกันยายนในสัปดาห์นี้
ดัชนี S&P/ASX 200 ลดลง 1.5%