โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – หุ้นน่าซื้อวันนี้ 6 ส.ค. 64: โบรกมองหุ้นไทยแกว่งตัวไซด์เวย์ ดาวน์ โดยแรงหนุนไม่แรงพอที่จะทะลุ 1,550 จุดได้ แนะซื้อหุ้นกำไรไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง ปลายปียังขยายตัวเด่น
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สัญญาณกระแสเงินทุนค่อนข้างเป็นลบเมื่อวานนี้ สะท้อนจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในปริมาณมาก และนอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลออกส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่เคยประเมิน สะท้อนจากการปรับประมาณการของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเมื่อวานนี้ คาด GDP ไทยปีนี้ ขยายตัวเพียง 0.7% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.8%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเด่น 4 ตัวที่แนะนำในวันนี้ ได้แก่
1. GULF โดยรายงานเสร็จสิ้น Tender Offer หุ้น INTUCH ส่งผลให้ถือหุ้นในสัดส่วน 42.25% ก้าวขึ้นสู่ผู้ถือหุ้นอันดับ 1 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในรูปแบบเงินปันผล/ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีงบ 2564 เป็นกำไรส่วนเพิ่มให้กับบริษัท ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ที่ 1.5 พันล้านบาท เติบโต +50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ขณะที่ไตรมาส 3 ปีงบ 2564 คาดกำไรเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาและเทียบต่อไตรมาส มีโอกาสทำกำไรระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสได้
นอกจากนั้น มีโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อประโยชน์กันได้กับ ADVANC รวมทั้งการ Unlock Value ในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นอัพไซด์ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ ราคาปิด 35.25 บาท ให้แนวต้านทางเทคนิค 37.00 บาท
2. ตัวต่อมาคือ BGRIM โดย คาดกำไรปกติในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ที่ 902 ล้านบาท เติบโต +34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และ +40% เมื่อเทียบรายไตรมาสจากปริมาณใช้ไฟของธุรกิจไฟฟ้าในเวียดนาม และไตรมาส 1 ปีงบ 2564 มีการปิดซ่อมบำรุงหลายโรง ขณะที่ในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 กลับมาเดินเครื่องตามปกติ ขณะที่ Catalyst คือ ความคืบหน้าดีล M&A ในไตรมาส 3 ปีงบ 2564
3. III ราคาหุ้นมีปัจจัยบวก คือ คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบรายไตรมาส จากการขยายตัวของธุรกิจขนส่งสินค้า และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ได้ผลบวกจากค่าระวางเรือขนส่งทางทะเลที่ปรับตัวขึ้น
4. AH คาดกำไรปกติในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ที่ 185 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนปกติ 593 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปีงบ 2563 ขณะที่ปัจจัยบวกระยะสั้นต่อกลุ่มยานยนต์ คือ คาดว่าโรงงานโตโยต้าในไทยจะกลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้ง หลังปิดชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และการขาดแคลนชิ้นส่วนราคาปิด 23.90 บาทแนวต้านทางเทคนิค 25.00 บาท โดยภาพทางเทคนิค แนวต้าน 25.00 บาท แนวรับ 23.70 บาท และสต็อปลอสต์หากต่ำกว่า 23.00 บาท