ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก ลุ้นเฟดลดวงเงินซื้อสินทรัพย์

โดย Peter Nurse

Investing.com - ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยยังคงซุ่มเงียบก่อนการประชุมธนาคารกลางจะสิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า โดยมองหาข้อบ่งชี้ว่าธนาคารกลางจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงินเมื่อใด

เมื่อเวลา 2:55 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (0755 GMT) ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ อีก 6 สกุล ซื้อขายสูงขึ้น 0.1% ที่ 92.612

ดัชนีอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 92.887 เมื่อต้นสัปดาห์และระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ของวันอังคารที่ 92.321 หลังจากรายงานอัตราเงินเฟ้อออกมาอ่อนตัวเกินคาด

ค่าเงินเยน ซื้อขายทรงตัวที่ 109.36 เยนต่อดอลลาร์ ในขณะที่ ค่าเงินยูโร ลดลง 0.2% มาที่ 1.1795 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยไม่ได้ปัจจัยเสริมจากการขึ้นทะเบียนรถยนต์ที่ออกมาย่ำแย่ในเดือนสิงหาคม ค่าเงินปอนด์ ลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 1.3812 ปอนด์ต่อดอลลาร์ ในขณะที่ ค่าเงินออสเตรเลีย ลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 0.7310 แม้ว่าอัตราการว่างงานของประเทศจะลดลงอย่างไม่คาดคิดมาอยู่ที่ 4.5%

ขณะนี้ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกำลังมุ่งความสนใจไปยัง การประชุมนโยบาย ของธนาคารกลาง ซึ่งจะจัดขึ้นสองวันในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและแนวทางการลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ในที่สุด

“ความเสี่ยงที่ค่าเงินดอลลาร์จะมีผลจากการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอาจเอียงไปทางด้านล่างเล็กน้อย หากตลาดมีความเห็นตรงกันว่าการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยจะล่าช้าจริง ๆ” นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในหมายเหตุ

ยอดค้าปลีก ของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีสำหรับเดือนสิงหาคม อาจเพิ่มสมมติฐานว่าการลดสินทรัพย์อาจถูกระงับไว้ชั่วคราว ตามที่คาดว่าจะเผยในเวลา 8:30 น. ET (1230 GMT) ยอดขายลดลงอีกครั้ง ในเดือนสิงหาคมหลังจากที่ร่วงลงในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบแบบเดือนต่อเดือน พบว่าลดลง 0.8% และ 1.1% ในเดือนกรกฎาคม

นอกจากนี้ จำนวนบุคคลที่ยื่นขอ ประกันการว่างงาน เป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาก็เพิ่มขึ้นเป็น 330,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 กันยายน จาก 310,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า

ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 0.7110 หลังจากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเติบโตเร็วกว่าที่คาดมาก โดย gross domestic product(GDP) เร่งตัวขึ้นเป็น 2.8 % ในไตรมาสที่สอง

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้ตอกย้ำมุมมองที่ว่าธนาคารกลางของประเทศจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ โดยได้ระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 ที่เป็นเหตุให้เกิดการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดจากรัฐบาล