โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันร่วงลงในเช้าวันนี้ โดยนักลงทุนต่างประหลาดใจกับอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น และยังคงประเมินผลกระทบของสถานการณ์โควิดต่อความต้องการเชื้อเพลิง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.46% มาอยู่ที่ 69.03 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 01:38 น. ET (5:38 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.51% มาอยู่ที่ 66.86 ดอลลาร์
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่ามีน้ำมันเพิ่มขึ้น 806,000 บาร์เรลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ก.ค. การคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 4.167 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ลดลง 4.079 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
หากตัวเลขดังกล่าวได้รับการยืนยันจาก ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา จะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 เมื่อต้นเดือน ผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกและการแก้ไขข้อพิพาทขององค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) จะส่งผลให้มีการผลิตเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ประเด็นนี้ทำให้ Goldman Sachs (NYSE:GS) ออกมาเตือนว่า ตลาดน้ำมันจะผันผวน และปรับคาดการณ์ราคาเป้าหมายไว้ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงมองในแง่ดีอย่างระมัดระวัง
“ความเสียหายจากสถานการณ์โควิดต่อการเปิดเศรษฐกิจใหม่ ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นไปทั่วทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยทั่วไป โดยเฉพาะกับตลาดน้ำมัน ถึงกระนั้น เราคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะยังคงค่อนข้างแข็งแกร่ง และเราคาดหวังว่าตลาดจะสามารถฟื้นตัวได้ต่อไป” เวนย์ กอร์ดอน นักยุทธศาสตร์ด้านการบริหารความมั่งคั่งของ UBS AG กล่าวกับ Bloomberg
ราคาน้ำมันที่ตกต่ำเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เปราะบาง โดยราคาน้ำมันเบนซิน ทองแดง และแร่เหล็กร่วงต่ำลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ ได้ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายด้วยเงินสกุลนี้มีราคาแพงขึ้น