Investing.com — Lyft ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าได้เพิ่มโครงการซื้อหุ้นคืนเป็น 750 ล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทรถแชร์รายนี้พลิกกลับมามีกําไรในไตรมาส 1
เมื่อวันศุกร์ หุ้น LYFT Inc (NASDAQ:LYFT) พุ่งขึ้นมากกว่า 20%
สําหรับผลประกอบการสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม บริษัทรายงานกําไรต่อหุ้น 0.01 ดอลลาร์ เทียบกับขาดทุน 0.08 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 14% เป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขาดทุน 0.02 ดอลลาร์บนรายได้ 1.46 พันล้านดอลลาร์
จํานวนผู้โดยสารที่ใช้งานเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แตะระดับ 24.2 ล้านคน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของไตรมาส 1
"ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม จํานวนการโดยสารแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รายสัปดาห์ และคนขับที่ใช้แอพทั้งสองแพลตฟอร์มรายงานว่าชอบ Lyft มากกว่าคู่แข่งถึง 23 เปอร์เซ็นต์" บริษัทกล่าว
สําหรับไตรมาส 2 บริษัทคาดการณ์ยอดจองรวมประมาณ 4.41 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% ถึง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 115 ล้านดอลลาร์ถึง 130 ล้านดอลลาร์
หลังจากรายงานผลประกอบการ Goldman Sachs ได้ปรับอันดับหุ้น Lyft เป็น "ซื้อ" พร้อมตั้งราคาเป้าหมายที่ 20 ดอลลาร์ต่อหุ้น
"แม้ว่าการถกเถียงในระยะสั้นอาจยังคงอยู่ที่แนวโน้มอุตสาหกรรมเกี่ยวกับราคาแชร์รถ การเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งการตลาด ตําแหน่งเทียบกับธีมยานยนต์ไร้คนขับ และ/หรือการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค เราเชื่อว่าราคาหุ้นไม่สอดคล้องกับศักยภาพในการทํากําไรของ LYFT ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า" ธนาคารเขียน
ขณะเดียวกัน มีการประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า Engine Capital LP กําลังถอนการเสนอชื่อผู้สมัครเพื่อเลือกตั้งเข้าคณะกรรมการบริษัทของ Lyft ในการประชุมประจําปี 2025 หลังจากการเจรจากับบริษัท
"เราขอขอบคุณคณะกรรมการที่เต็มใจพูดคุยกับเราเกี่ยวกับขั้นตอนที่สามารถดําเนินการเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ Lyft" Arnaud Ajdler ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการกลุ่มหลักทรัพย์ลงทุนของ Engine กล่าว "หลังจากการสนทนาที่มีประสิทธิผลหลายครั้ง คณะกรรมการได้ก้าวสําคัญแล้วด้วยการมุ่งมั่นที่จะซื้อหุ้นคืนอย่างมีนัยสําคัญในไตรมาสต่อๆ ไป เมื่อพิจารณาถึงการดําเนินการเหล่านี้ เราได้ถอนการเสนอชื่อของเราและให้เวลาบริษัทในการดําเนินการตามข้อผูกมัดใหม่"
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน