Ripple บริษัทให้บริการระบบชำระเงินและเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ ได้วิเคราะห์ว่า ตอนนี้ประเทศในแถบลาตินอเมริกาเป็นประเทศที่เอื้อต่อการประกอบกิจการทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีกฎหมายรองรับการชำระเงินด้วยเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่
บริษัทคริปโตมีโอกาสเติบโตในลาตินอเมริกา
ขณะเดียวกันประเทศที่อยู่ในแถบลาตินอเมริกาเจอกับปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและบทบาทการทำงานของธนาคารกลางในแต่ละประเทศ เรื่องนี้ทำให้ทาง Ripple มองเห็นว่า นักลงทุนเริ่มใช้จังหวะโอกาสนี้ในการเข้าไปลงทุนธุรกิจทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่ และพร้อมที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนธนาคารเพื่อให้ประชาชนคนในประเทศสามารถใช้เหรียญคริปโตได้อย่างครอบคลุม
Ripple มีความเชื่อว่า ประเทศในแถบลาตินอเมริกาจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี่ได้ในอนาคต สอดคล้องกับบริษัทที่เห็นว่า บริษัทคริปโตเคอร์เรนซี่หลายแห่งอาจใช้ช่องโหว่ในการขอความร่วมมือกับธนาคารหลายแห่งในการเปิดให้บริการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ แม้ว่าธนาคารหลายแห่งจะมีการใช้ระบบเดิม แต่รัฐบาลประเทศในแถบลาตินอเมริกาหลายประเทศให้การสนับสนุนภาคธุรกิจเทคโนโลยีการเงินหรือ Fintech อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี่มาปรับใช้
คริปโตช่วยให้คนเข้าถึงการเงินได้
ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทคริปโตเคอร์เรนซี่หลายแห่งใช้จุดนี้ในการร่วมมือกับธนาคารกับ Fintech เพื่อเสริมสร้างการทำธุรกรรมและชำระเงินด้วยเหรียญคริปโตภายในประเทศต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประเทศหลายประเทศในลาตินอเมริกาเป็นประเทศใหญ่ ตัวอย่างเช่นประเทศบราซิลกับชิลีประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งการเงินจากธนาคารที่มีอยู่มาแต่เดิมได้ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีตรงนี้เข้ามาช่วย จะทำให้ผู้คนเข้าถึงเงินสดและชำระเงินไปมาได้สะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมมากเกินไป