BeInCrypto - CEO ของ BlackRock หนึ่งในสถาบันการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา Larry Fink มองว่า Tokenization จะเป็นอนาคตของตลาดทุน โดยเฉพาะ หุ้นและพันธบัตร ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Fink ระบุในจดหมายประจำปีฉบับล่าสุดถึงนักลงทุนว่า BlackRock กำลังสำรวจอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแบบ Permissioned เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของหุ้นและพันธบัตร แม้จะแสดงความกังวลต่อกฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิตอลที่ยังไม่ชัดเจนนัก
BlackRock มุ่งพัฒนา Tokenization
เทคโนโลยีนี้ คือ การทำให้สินทรัพย์อย่าง หุ้นและพันธบัตร กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิตอลบนบล็อกเชน (อ่านเพิ่มเติม) สิ่งนี้จะเป็นอนาคตที่พลิกโฉมระบบของสินทรัพย์ยอดนิยมทั้ง 2 ประเภทนี้ การชำระธุรกรรมต่างๆ จะไม่ต้องรอเป็นวันอีกต่อไป เพราะมันสามารถชำระธุรกรรมได้แทบจะทันที
แม้ว่าบริษัทคริปโตอย่าง FTX จะล้มเหลว แต่การชำระเงินแบบดิจิทัลก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว Fink เชื่อว่าแอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อพื้นที่ดิจิทัลเติบโตขึ้น
“สำหรับอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์ เราเชื่อว่าศักยภาพในการดำเนินงานของเทคโนโลยีพื้นฐานบางอย่างของสินทรัพย์ดิจิทัลอาจนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแปลงสินทรัพย์ปัจจุบันให้กลายเป็น Token นำเสนอโอกาสในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพในตลาดทุน มันจะช่วยลดต้นทุนและทำให้นักลงทุนเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น” เขากล่าว
US กำลังขาดนวัตกรรม
Fink ยังได้พูดคุยเกี่ยวกับตลาดเกิดใหม่ อย่าง บราซิล อินเดีย และบางส่วนของแอฟริกาที่มีความก้าวหน้าในระบบการชำระเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงินใหม่ๆ ในทางตรงกันข้าม ตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกากลับยังล้าหลังในด้านนวัตกรรมการชำระเงิน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐเข้าควบคุมหน่วยงานที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอลอย่างเข้มข้น จากปัญหาด้านกฎระเบียบของบริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง Paxos ไปจนถึงการปิดอย่างกะทันหันของ Signature Bank ที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม Fink เชื่อว่าพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัลต้องการการควบคุมที่เหมาะสมกว่านี้เมื่ออุตสาหกรรมเติบโตเต็มที่ และย้ำอีกครั้งว่า กฎที่ชัดเจนจะช่วยให้นักลงทุนตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนนี้