Siamblockchain - ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานกว่า 100,000 รายการบนแพลทฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT ของ OpenAI ถูกรั่วไหลไปยังเว็บมืด อ้างอิงจากรายงานของ Group-IB บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสิงคโปร์ Group-IB เผยว่าการขโมยข้อมูลส่วนตัวเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2565 แต่ยอดสูงสุดที่ถูกขโมยนั้นอยู่ที่ 26,802 ยูเซอร์ในเดือนพฤษภาคม 2566 รายงานระบุว่าการโจรกรรมดังกล่าวถูกทำผ่านมัลแวร์ Raccoon Infostealer ซึ่งเหยื่อได้ทำการดาวน์โหลดหลังเปิดอีเมลฟิชชิ่ง เมื่อติดไวรัสแล้ว มัลแวร์จะรวบรวมข้อมูลการเข้าสู่ระบบ, ประวัติ และคุกกี้ที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ Group-IB กล่าวว่าสิ่งนี้สามารถโจรกรรมข้อมูลกระเป๋าเงินคริปโตได้ด้วย จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Chainalysis พบว่าเงินดิจิทัลกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกขโมยในปี 2565 เพียงปีเดียว การโจมตีทางไซเบอร์รูปแบบหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดคือการโจมตีแบบฟิชชิ่งมาในรูปแบบของอีเมล, ข้อความ, หรือข้อความบนโซเชียลมีเดีย และรวมถึงการส่งการสื่อสารที่หลอกลวง เช่น ข้อความบนโซเชียลมีเดียที่ดูเหมือนว่ามาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ “มัลแวร์ประเภทนี้แพร่ระบาดในคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ผ่านการฟิชชิงหรือวิธีการอื่นๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด” Group-IB เขียนในข่าวประชาสัมพันธ์ที่เขียนร่วมกับ ChatGPT “ผู้ขโมยข้อมูลกลายเป็นแหล่งเก็บข้อมูลของผู้ที่ถูกบุกรุกขนาดใหญ่ เนื่องจากความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ” Group-IB เผยว่าข้อมูลรับรอง ChatGPT ส่วนใหญ่ที่ถูกขโมย ประมาณ 41,000 รายการมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ Group-IB แนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตรหัสผ่านและใช้การยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัยในบัญชีของตนอีกด้วย เมื่อต้นเดือนนี้ OpenAI ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ
กดอ่านข่าว แฮคเกอร์ปล่อยข้อมูลล็อคอินส่วนตัวของผู้ใช้งาน ChatGPT มากกว่า 100,000 ยูเซอร์ใน Darkweb ต่อที่ Siam Blockchain