Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

ดาวโจนส์ร้อนแรง ทะยานกว่า 1,300 จุด เก็งเศรษฐกิจสหรัฐแกร่งขานรับ "ทรัมป์"

เผยแพร่ 07/11/2567 06:24
© Reuters.  ดาวโจนส์ร้อนแรง ทะยานกว่า 1,300 จุด เก็งเศรษฐกิจสหรัฐแกร่งขานรับ "ทรัมป์"
DJI
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 1,300 จุด ทะลุแนว 43,000 จุด ขานรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน

ณ เวลา 23.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 43,527.51 จุด บวก 1,305.63 จุด หรือ 3.09%

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ชัยชนะของนายทรัมป์ รวมทั้งแนวโน้มที่พรรครีพับลิกันจะกวาดเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะทำให้มาตรการต่าง ๆ ตามนโยบาย "Make America Great Again!" ของนายทรัมป์ถูกขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะนโยบายปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน และการใช้จ่ายทางการคลัง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และหนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาด

สำนักข่าว CNN รายงานว่า นายทรัมป์ได้กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐแล้ว โดยล่าสุด CNN คาดว่า นายทรัมป์ได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งมากถึง 276 เสียง เกินกว่าระดับ 270 เสียงสำหรับการเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เพียง 223 เสียง

นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีแนวโน้มกวาดชัยชนะทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยขณะนี้ CNN รายงานว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว โดยมีอยู่ 52 เสียง เกินกว่าระดับ 50 เสียงที่จำเป็นในการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 42 เสียง ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ขณะนี้พรรครีพับลิกันได้รับ 204 เสียง ใกล้ระดับ 218 เสียงสำหรับการครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคเดโมแครตได้เพียง 182 เสียง

การคว้าชัยชนะอย่างรวดเร็วของนายทรัมป์ในเวลาไม่นานหลังการปิดหีบเลือกตั้งในสหรัฐ ถือเป็นการสวนกระแสคาดการณ์ของโพลหลายสำนักที่ว่า การแข่งขันระหว่างนายทรัมป์และนางแฮร์ริสจะเป็นไปอย่างสูสี และการประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอาจยืดเยื้อและใช้เวลาหลายวันเหมือนกับการเลือกตั้งในปี 2563 ซึ่งนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือนายทรัมป์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 68.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.

หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.ตามคาด ก็จะสอดคล้องกับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในปี 2568 และลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในปี 2569

โดยรวมแล้ว Dot Plot บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2.00% หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย