Investing.com – ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนหลังจากหยุดพักในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกถดถอยซึ่งจะทำให้อุปสงค์อ่อนตัวลง โดยได้บดบังรายงานที่แสดงตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ลดลง
ตัวเลขที่ดีในวันพุธทำให้ภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นได้เพียงเล็กน้อย โดยอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคของอังกฤษพุ่งขึ้นสู่ 10.1% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1982 ส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วไปถูกกดดันอย่างหนักในแง่ของการใช้จ่าย ตามการรายงานของรอยเตอร์ส
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ลดลง 44 เซนต์หรือ 0.5% เป็น 91.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเวลา 08:15 GMT และก่อนหน้านี้ลดลงมาที่ 91.64 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ลดลง 9 เซนต์หรือ 0.1% แตะ 86.44 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานที่แสดงให้เห็นถึงตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ที่ลดลง โดยน้ำมันดิบคงคลังลดลงประมาณ 448,000 บาร์เรลและน้ำมันเบนซินประมาณ 4.5 ล้านบาร์เรล โดยแหล่งข่าวอ้างถึงตัวเลขของสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาของวันอังคาร
ข้อมูลสินค้าคงคลังอย่างเป็นทางการจากสถาบันการบริหารข้อมูลพลังงานจะเปิดเผยเวลา 14:30 GMT [EIA/S]
ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในปี 2022 โดยเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147 ดอลลาร์ในเดือนมี.ค. หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่ทำให้ความกังวลเรื่องอุปทานแย่ลง ราคาได้ลดลงเนื่องจากความกังวลถูกแทนที่โดยโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
ด้านอุปทานน้ำมัน ตลาดกำลังรอการเคลื่อนไหวจากการเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ของอิหร่านกับมหาอำนาจโลก ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มการส่งออกน้ำมันของอิหร่านหากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง
สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกากล่าวเมื่อวันอังคารว่าพวกเขากำลังศึกษาการตอบสนองของอิหร่านต่อสิ่งที่สหภาพยุโรปเรียกว่าข้อเสนอ "สุดท้าย" เพื่อรักษาข้อตกลง