Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงต้นของการซื้อขายช่วงวันจันทร์ ทำกำไรเพิ่มเติมจากเซสชั่นก่อนหน้าเนื่องจากความกลัวว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอยทั้งยังปัจจัยที่อุปทานตึงตัวท่ามกลางผลผลิตของ OPEC ที่ลดลง รวมถึงปัจจัยความไม่สงบในลิเบีย และการคว่ำบาตรรัสเซีย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ร่วง 35 เซนต์หรือ 0.3% เป็น 111.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเวลา 00.16 GMT แต่ทำกำไร 2.4% ในวันศุกร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTIของสหรัฐฯ ร่วงลง 32 เซนต์หรือ 0.3% เป็น 108.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากไต่ระดับทำกำไร 2.5% ในวันศุกร์เช่นกัน
ยังคงมีปัจจัยที่หนุนไม่ให้ราคาน้ำมันร่วงลงอีก นั่นคือ ความกลัวว่าเศรษฐกิจถดถอยได้ส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาและความกังวลด้านอุปทานยังคงมีอยู่
ผลผลิตจากสมาชิก 10 ประเทศของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในเดือนมิถุนายนลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) เป็น 28.52 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งห่างไกลจากที่ได้กล่าวว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 275,000 บาร์เรลต่อวัน
โดยซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกรายใหญ่อื่น ๆ พยายามเพิ่มกำลังผลิตเพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่ลดลงของไนจีเรียและลิเบีย ในขณะที่ลิเบียกำลังเผชิญกับอุปสรรคความยุ่งยากทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้ทำให้อุปทานหยุดชะงัก ตามรายงานของรอยเตอร์ส
การส่งออกของลิเบียลดลงเหลือระหว่าง 365,000 บาร์เรลต่อวันและ 409,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงประมาณ 865,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับระดับปกติ National Oil Corp กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สถานการณ์พนักงานในโรงงานน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์นัดหยุดทำงานพร้อมกันในสัปดาห์นี้ อาจทำให้การผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวของประเทศลดลง 130,000 บาร์เรลต่อวัน
เทรดเดอร์จะจับตาดูรายงานราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันอย่างเป็นทางการของเดือนสิงหาคมจากผู้ส่งออกน้ำมันชั้นนำของซาอุดิอาระเบีย เพื่อหาสัญญาณว่าตลาดตึงตัวเพียงใด โดยโรงกลั่นจะปรับเพิ่มราคาขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้งใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤษภาคม
แหล่งกลั่น 9 แห่งที่สำรวจโดยรอยเตอร์สคาดว่าราคาขายน้ำมันดิบ Arab Light ซึ่งเป็นเรือธงของซาอุดิอาระเบียอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 2.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากเดือนก่อนหน้า