โดย Barani Krishnan
Investing.com – ภาพรวมของตลาดพลังงานและโลหะมีค่าในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
ภาพรวมตลาดพลังงาน
นอกจากนายเพาเวลล์จะไม่ให้คำใบ้แก่ผู้ลงทุนว่าเขามีทัศนะอย่างไรต่ออัตราดอกเบี้ยในอนาคตแล้ว จีนยังสร้างความประหลาดใจให้ตลาดน้ำมันและตลาดอื่น ๆ ทรุดตัวลงเมื่อวันศุกร์ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าสหรัฐฯ รวมสินค้าน้ำมันเป็นมูลค่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มอีก 10% ด้วย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ขยับลง $1.18 หรือราว 2.1% และปิดตัวอยู่ที่ $53.38 ต่อบาร์เรล เนื่องด้วยความไม่ชัดเจนของเฟดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และการตอบโต้เอาคืนสหรัฐฯ จากจีน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ก็ย่อตัวลง 58 เซนต์ หรือประมาณ 0.8% เท่ากับ $59.34 ต่อบาร์เรล อยู่ใต้ระดับสำคัญที่ $60 ต่อบาร์เรล
ขาลงที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นขาลงรายวันครั้งใหญ่ที่สุดของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ภายในระยะเวลา 10 วัน และหากพิจารณาเป็นรายสัปดาห์แล้ว สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ย่อตัวลงไป 2.7% แต่สัญญาเบรนท์กลับปรับขึ้น 1.2%
เมื่อมองจากความเคลื่อนไหวในวันศุกร์แล้ว ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาต่อไปอีก โดยอาจจะมีการแกว่งขึ้นแกว่งลงบ้างเป็นครั้งคราวจากผลกระทบของสงครามการค้าและปริมาณน้ำมันดิบ
ปฏิทินตลาดพลังงานสัปดาห์นี้
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม
ตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก Genscape Cushing (ตัวเลขจากภาคเอกชน)
วันอังคารที่ 27 สิงหาคม
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์จาก
วันพุธที่ 28 สิงหาคม
จาก EIA
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม
จาก EIA
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์จาก
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่า
ดูเหมือนว่าผลการตัดสินใจของนายเพาเวลล์ที่ปล่อยให้ตลาดค้างคาใจน่าจะทำให้ราคาทองคำดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ แต่การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ของจีน และคำสั่งของทรัมป์ที่สั่งให้บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ย้ายฐานกำลังการผลิตออกจากจีน ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ตลาดคาดไม่ถึงเลยทั้งสิ้น
แต่ผู้ลงทุนที่เปิดสัญญาซื้อไว้ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เนื่องจากราคาทองกลับพุ่งขึ้นแทนที่จะเกิดการเทขาย
ล่าสุดราคาทองคำโลกปรับขึ้นมา $29.77 และมีราคาซื้อขายล่าสุดที่ $1,527.89 เมื่อวันศุกร์
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคมปรับขึ้น $29.10 หรือราว 1.9% ที่ $1,537.60 ในตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์ค เมอร์แคนไทล์ เอ็กซ์เชนจ์
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่แถว ๆ ระดับ $1,500 เนื่องจากผู้ลงทุนบางท่านเชื่อว่าเฟดจะไม่เอนเอียงไปทางนโยบายแบบผ่อนคลายเมื่อถึงการประชุมที่แจ็คสัน โฮล วันที่ 22-24 สิงหาคมที่ผ่านมา
และแล้วการประชุมที่ไวโอมิงก็ผ่านไป โดยไม่มีคำชี้แจงใด ๆ ที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายเพาเวลล์ได้กล่าวไว้ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ใน "จุดที่เหมาะสม" และเฟดจะ "ดำเนินการตามความเหมาะสม" เพื่อเกื้อหนุนให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นไปอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้การลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกมีราคาที่ถูกลง และจึงส่งผลให้ราคาทองคำมักปรับขึ้นเมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ย
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่า
วันจันทร์
ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ Ifo ของเยอรมนี
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ
ประธานเฟดประจำเซนต์หลุยส์ นายเจมส์ บุลลาร์ด ให้คำกล่าว
การประชุม G7
วันอังคาร
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย S&P/Case-Shiller ของสหรัฐฯ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
วันพฤหัสบดี
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐฯ
ตัวเลข GDP ประมาณการณ์ครั้งที่สองของสหรัฐฯ
ยอดรอขายบ้านสหรัฐฯ
วันศุกร์
ตัวเลขประมาณการณ์ดัชนี CPI ฝั่งยูโรโซน
ตัวเลขรายรับ/รายจ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อจากชิคาโกสหรัฐฯ