Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสามสัปดาห์ในตลาดเอเชียวันนี้ หลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม และกลุ่ม OPEC+ วางแผนลดกำลังการผลิต ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปทานในช่วงหลายเดือนข้างหน้าอาจตึงตัวขึ้น
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน หลังฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวและอุปทานที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนในช่วงที่ผ่านมา จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังปักกิ่งประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 0.6% แตะระดับ 72.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.7% แตะ 68.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:17 น. (GMT+7) โดยทั้งสองสัญญาทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นระหว่าง 1.7% ถึง 3% ในสัปดาห์นี้
สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ พุ่งเป้าโรงกลั่นจีน
เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่ออิหร่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโรงกลั่นอิสระของจีน และเรือบรรทุกน้ำมันที่ส่งน้ำมันดิบให้กับโรงกลั่นเหล่านั้น
มาตรการดังกล่าวถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของวอชิงตัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในเดือนกุมภาพันธ์ว่าจะกลับมาใช้มาตรการ “กดดันขั้นสูงสุด” กับอิหร่าน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการส่งออกน้ำมันของประเทศให้เหลือศูนย์
เป้าหมายหลักของทรัมป์คือการสกัดไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำที่สหรัฐอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “กองเรือเงา” ของอิหร่าน ได้ถูกระบุเป็นเป้าหมายในมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ รวมถึงโรงกลั่นในจีนด้วย
ทั้งนี้ จีนไม่ยอมรับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน และยังคงเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านรายใหญ่ที่สุด
OPEC+ วางแผนลดกำลังการผลิต
องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สมาชิก 7 ประเทศจะร่วมกันลดกำลังการผลิต เพื่อชดเชยปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
แผนการดังกล่าวจะลดการผลิตรายเดือนระหว่าง 189,000 ถึง 435,000 บาร์เรลต่อวัน และจะดำเนินไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2026
การลดการผลิตรอบใหม่ ซึ่งเน้นหนักในอิรักและซาอุดีอาระเบียจะช่วยชดเชยการตัดสินใจเพิ่มการผลิตก่อนหน้านี้ ขณะที่คาซัคสถานก็ผลิตน้ำมันเกินโควตาของ OPEC+ อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
มาตรการลดกำลังผลิตของ OPEC+ ประกอบกับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม ได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันโดยเพิ่มแนวโน้มว่าอุปทานจะตึงตัวมากขึ้นในช่วงเดือนต่อ ๆ ไป
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากช่วงต้นสัปดาห์ หลังนักลงทุนเริ่มตั้งราคาค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงของน้ำมันไว้สูงขึ้น จากการล่มของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส