Investing.com - ราคาน้ำมันร่วงลงในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวลงเกือบ 1% ในวันก่อนหน้า เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิง 30 วันในภาคพลังงานของยูเครนระหว่างสหรัฐและรัสเซีย รวมถึงปริมาณน้ำมันดิบในคลังที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด
นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในวันนี้
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม ลดลง 0.4% มาเป็น 70.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 09:05 น. (GMT+7) ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ปรับตัวลง 0.4% เป็น 66.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งสองสัญญาปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายช่วงเช้าของวันอังคารหลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น แต่ก็กลับปิดตลาดลดลงเกือบ 1% หลังมีมาตรการพักรบชั่วคราวในยูเครน
ปูตินและทรัมป์ตกลงหยุดยิง 30 วันในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของยูเครน
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ตกลงยุติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนเป็นเวลา 30 วัน ตามข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
ข้อตกลงนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความตึงเครียดและปกป้องสินทรัพย์ด้านพลังงานที่สำคัญของยูเครน ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญสู่การเจรจาสันติภาพที่กว้างขึ้น
การพักรบชั่วคราวนี้ส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดน้ำมันโลก โดยเฉพาะในเรื่องแนวโน้มอุปทานในอนาคต
หากการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐและรัสเซียเกี่ยวกับยูเครนประสบความสำเร็จ วอชิงตันก็อาจผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนที่มีต่อการส่งออกพลังงานของรัสเซีย โดยอาจลดข้อจำกัดในการค้าขายน้ำมัน หรืออนุญาตให้ผู้ซื้อบางรายได้รับการยกเว้นเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้รัสเซียเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป
แนวโน้มดังกล่าวเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดน้ำมัน ซึ่งได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากแผนของกลุ่ม OPEC+ ที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนเมษายน
สินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งสูงกว่าที่คาด
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 4.593 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.170 ล้านบาร์เรล
โดยนี่เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันที่สินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ก็เพิ่มขึ้นถึง 4.247 ล้านบาร์เรล
ตลาดมักมองว่าการเพิ่มขึ้นของน้ำมันคงคลังเป็นสัญญาณเชิงลบ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะอุปทานที่มากเกินไปหรือความต้องการที่ลดลง
เทรดเดอร์จะต้องจับตาดูรายงานจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ที่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ เพื่อยืนยันแนวโน้มของปริมาณน้ำมันในตลาด
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางช่วยพยุงราคาน้ำมัน
หลังจากการหยุดยิงที่กินเวลานานเกือบสองเดือน อิสราเอลก็ได้เริ่มการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาอีกครั้งในวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขปาเลสไตน์
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีนี้เป็น "เพียงจุดเริ่มต้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่สงบที่จะดำเนินต่อไปในภูมิภาค
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังให้คำมั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน จนกว่าพวกเขาจะหยุดการโจมตีเรือและโดรนของสหรัฐฯ
ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญในทะเลแดง ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลกอย่างมีนัยสำคัญ
ภูมิภาคตะวันออกกลางมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจพลังงานโลก และเมื่อความขัดแย้งเพิ่มสูงขึ้น มันก็ย่อมก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่อาจได้รับผลกระทบ