ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากความตึงเครียดในทะเลแดงและแผนกระตุ้นการบริโภคของจีน

เผยแพร่ 17/03/2568 09:12
© Reuters

Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความเป็นไปได้ของการหยุดชะงักทางการค้า หลังจากที่สหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนต่อไปจนกว่าการโจมตีของพวกเขาจะยุติลง

บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่จีนประกาศแผนปฏิบัติการพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้น 1.6% มาเป็น 71.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:12 น. (GMT+7) ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส พุ่งขึ้น 1.8% แตะระดับ 68.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งสองสัญญาปิดตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น

สหรัฐฯ ให้คำมั่นจะเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตีต่อไป

รัฐบาลสหรัฐได้เพิ่มความเข้มข้นของปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มกบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน โดยรัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ ประกาศว่า การโจมตีทางอากาศจะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่ากลุ่มฮูตีจะหยุดการโจมตีเรือและโดรนของสหรัฐฯ

ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีรอบแรกที่ส่งผลให้กลุ่มฮูตีได้รับความเสียหายอย่างหนัก

กลุ่มฮูตีมีประวัติการโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญของโลก โดยคิดเป็นประมาณ 15% ของปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลทั่วโลก

ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของเส้นทางขนส่งที่สำคัญในทะเลแดง ซึ่งอาจกระทบต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลก

จีนประกาศแผนพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภค

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนได้เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุปสงค์ภายใน

แผนดังกล่าวประกอบด้วยมาตรการเพิ่มรายได้ของประชาชน ลดภาระทางการเงิน และปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการบริโภคเพื่อส่งเสริมการใช้จ่าย

มาตรการสำคัญนั้นได้แก่ การส่งเสริมการเติบโตของค่าจ้างอย่างเหมาะสม ขยายช่องทางรายได้จากทรัพย์สิน และสำรวจแนวทางปลดล็อกมูลค่าของที่อยู่อาศัยในชนบทผ่านรูปแบบการเช่าและความร่วมมือ

แผนดังกล่าวยังเน้นไปที่การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น ยานยนต์ไร้คนขับและอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เพื่อสร้างภาคการบริโภคที่มีอัตราการเติบโตสูง

แนวโน้มของการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์และเทคโนโลยี ชี้ให้เห็นถึงความต้องการพลังงานที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้น

ในวันนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลรายเดือนของจีนเกี่ยวกับ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และ ดัชนียอดค้าปลีก เพื่อประเมินแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอันดับสองของโลก

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย