ราคาน้ำมันขยับขึ้นจากการหยุดชะงักของอุปทานและการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย

เผยแพร่ 19/02/2568 10:04
© Reuters.

Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ โดยตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่หยุดชะงัก หลังจากเกิดเหตุโดรนของยูเครนโจมตีสถานีสูบจ่ายน้ำมันดิบของรัสเซีย

น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ปรับตัวขึ้น 0.3% มาเป็น 76.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:48 น. (GMT+7) ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 72.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

จับตาการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้า หลังจากที่โดรนของยูเครนโจมตีสถานีสูบจ่ายน้ำมันดิบสำคัญของรัสเซีย ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันจากคาซัคสถาน เหตุการณ์นี้ทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของอุปทานที่ลดลงอีก ในขณะที่ตลาดน้ำมันยังคงเผชิญกับภาวะน้ำมันคงคลังที่ตึงตัว

รัสเซียรายงานว่า ปริมาณการขนส่งน้ำมันดิบผ่านท่อส่งของ Caspian Pipeline Consortium (CPC) ซึ่งเป็นเส้นทางการส่งออกหลักของน้ำมันคาซัคสถาน ลดลง 30%-40% ในวันอังคาร หลังจากการโจมตีดังกล่าว

ข้อมูลจากรอยเตอร์สประเมินว่าการลดลง 30% จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงประมาณ 380,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าการปฏิบัติการขนถ่ายน้ำมันที่ท่าเรือ Novorossiysk ของรัสเซียในทะเลดำก็ถูกระงับเนื่องจากพายุ ตามรายงานที่อ้างอิงแหล่งข่าวของรอยเตอร์สเมื่อวันอังคาร

อีกหนึ่งประเด็นที่ตลาดกำลังให้ความสนใจคือ การพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และรัสเซียที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเริ่มต้นการเจรจารอบแรกเกี่ยวกับสงครามในยูเครน

แม้ว่าการหารือยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่หากมีความคืบหน้าไปสู่ข้อตกลงสันติภาพ มันก็อาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งอาจเพิ่มปริมาณอุปทานน้ำมันในตลาดโลก และสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันได้

จับตาข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินอุปสงค์และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันก็ยังถูกจำกัดจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังต้องระมัดระวัง ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งอาจให้เบาะแสเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันและอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

อีกทั้งตลาดก็ยังกำลังรอการเปิดเผยตัวเลข ดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกและผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

นอกจากนี้ รายงาน การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ที่มีกำหนดการณ์เผยแพร่ในวันนี้ ก็จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อดูสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาน้ำมันโดยทำให้ต้นทุนการซื้อน้ำมันสูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย