Investing.com - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ โดยทรงตัวใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐฯ และอัตราดอกเบี้ย
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดหลายครั้ง เนื่องจากการดำเนินมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในตลาดและเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์เลื่อนการเรียกเก็บภาษีบางรายการออกไปก็ทำให้ราคาทองคำหลุดลงจากจุดสูงสุด
ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าทั้งสองฝ่ายมีความต้องการสันติภาพ โดยการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ราคาทองคำสปอต เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 2,901.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนขยับขึ้น 0.3% มาเป็น 2,910.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 12:35 น. (GMT+7)
ทองคำยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาทองคำสปอตยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,943.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โลหะมีค่ายังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้วางแผนเก็บภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน
มีรายงานจากสื่อต่างประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สหภาพยุโรปมีแผนจะปิดกั้นการนำเข้าถั่วเหลืองและอาหารอื่น ๆ จากสหรัฐฯ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ปฏิเสธรายงานดังกล่าวและยืนยันแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ต่อไป
ขณะเดียวกัน มาตรการภาษีโลหะล่าสุดของทรัมป์ได้สร้างความไม่พอใจให้กับหลายประเทศ ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี 10% กับสินค้าสหรัฐฯ ไปก่อนหน้านี้
สถานการณ์ดังกล่าวยังคงทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่ในระดับสูง เนื่องจากตลาดกำลังจับตาดูความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลก
เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์
เงิน ดอลลาร์ ที่อ่อนค่าลง โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนในวันนี้ ยังช่วยหนุนตลาดโลหะมีค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ดัชนี ยอดค้าปลีก ของเดือนมกราคมออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันศุกร์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเงินเฟ้อ อาจชะลอตัวลง
แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้อมูลเงินเฟ้อของผู้บริโภคและผู้ผลิตสำหรับเดือนมกราคมจะออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ แต่ก็พบว่าองค์ประกอบบางส่วนที่มีผลต่อดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ กลับมีการชะลอตัวลงเล็กน้อย
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว
แนวโน้มดังกล่าวได้กดดันค่าเงินดอลลาร์และช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าราคาจะปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ก็ตาม
แพลตตินัมฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% มาเป็น 1,016.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 32.785 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย ทองแดงฟิวเจอร์ส ในตลาด London Metal Exchange ขยับลงเล็กน้อยมาเป็น 9,468.45 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมขยับลงเล็กน้อยมาเป็น 4.6640 ดอลลาร์ต่อปอนด์