Investing.com - ราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ความหวังเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะกระตุ้นให้ตลาดการเงินโดยรวมมีแนวโน้มที่เปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นก็ตาม
แรงหนุนหลักในตลาดโลหะนั้นมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ สำหรับเดือนมกราคมจะออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่มันก็ยิ่งลดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ทองคำไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมูลเงินเฟ้อที่แข็งแกร่ง โดยยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดล่าสุด เนื่องจากความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีการค้าภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเป็นปัจจัยหนุน ทรัมป์ได้กำหนดมาตรการภาษีซึ่งเป็นตัวเร่งสำคัญให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำสปอต เพิ่มขึ้น 0.5% มาเป็น 2,918.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ปรับตัวขึ้น 0.6% มาเป็น 2,947.0 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 11:59 น.(GMT+7) โดยราคาสปอตยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,943.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเคยไปถึงเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ทรัมป์ผลักดันข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน
ทรัมป์กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ต่างแสดงความต้องการสันติภาพในการพูดคุยกับเขา ทรัมป์ยังกล่าวว่าเขาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ เปิดเผยว่ายูเครนจะไม่ขอเป็นสมาชิกของ NATO อีกต่อไป และจะไม่พยายามทวงคืนดินแดนทั้งหมดที่รัสเซียยึดไป ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นความขัดแย้งสำคัญที่นำไปสู่การรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2022
อย่างไรก็ตาม ความหวังที่ว่าสงครามซึ่งกำลังจะเข้าสู่ปีที่สี่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์อาจยุติลง ได้กระตุ้นให้ตลาดการเงินโดยรวมมีแนวโน้มเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากสงครามส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลกและก่อให้เกิดวิกฤติพลังงานในยุโรป
แม้ว่าความต้องการรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลลบต่อสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ทองคำก็ยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยความไม่แน่นอนอื่น ๆ โดยเฉพาะในเรื่องอัตราดอกเบี้ยและภาษีการค้า
โลหะมีค่าประเภทอื่น ๆ ก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้เช่นกัน โดย แพลตตินัมฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 1.2% มาเป็น 1,057.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.3% มาเป็น 32.880 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ทองแดงฟิวเจอร์ส บนตลาด London Metal Exchange ลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 9,474.75 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.8% มาเป็น 4.7265 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและภาษีการค้ายังคงอยู่
ตลาดยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่อาจอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นเวลานาน หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของเดือนมกราคมออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
หลังจากการประกาศข้อมูลดังกล่าว ประธานธนาคารกลางสหรัฐเจอโรม พาวเวลล์ ได้ให้การต่อรัฐสภาว่าเฟดจะยังคงระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยเขาระบุว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐทำให้เฟดมีช่องว่างเพียงพอในการใช้เวลาเพื่อตัดสินใจเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อาจได้รับแรงหนุนจากภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ซึ่งต้นทุนดังกล่าวจะถูกผลักไปยังผู้นำเข้าภายในประเทศ
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้อนุมัติภาษีนำเข้าที่ 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมด และยังส่งสัญญาณถึงมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ
ความกังวลเกี่ยวกับภาษีการค้าที่ยังคงเพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยหลักที่หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเช่นกัน