Investing.com - ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในตลาดเอเชียวันนี้ หลังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากประธานธนาคารกลางสหรัฐเจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่ายังไม่เร่งรีบในการลดอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับเงินดอลลาร์ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่หลายครั้งในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม รวมถึงส่งสัญญาณว่าจะเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ท่าทีของทรัมป์ต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส และสถานการณ์ในฉนวนกาซา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาติตะวันออกกลาง ก็ช่วยกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยราคาทองคำสปอตแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,943.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันอังคาร
ราคาทองคำสปอต ลดลง 0.4% มาเป็น 2,887.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนลดลง 0.7% มาเป็น 2,912.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:08 น.(GMT+7)
ทองคำเผชิญแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
ราคาทองคำเผชิญแรงกดดันหลักจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น โดย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี กลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 4.5% หลังจากพาวเวลล์กล่าวว่าเฟดยังคงระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
พาวเวลล์ให้การต่อคณะกรรมาธิการธนาคารของวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร โดยระบุว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายจากรัฐบาลทรัมป์ต่อเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เฟดยังไม่มีเหตุผลที่จะเร่งลดดอกเบี้ย
คำแถลงของพาวเวลล์ส่วนใหญ่สอดคล้องกับคำกล่าวก่อนหน้านี้จากการประชุมเฟดในเดือนมกราคม ซึ่งเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม
พาวเวลล์ยังระบุว่า นโยบายการเงินของสหรัฐได้รับการผ่อนคลายอย่างเพียงพอแล้ว หลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 100 จุดฐานในปี 2024
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นหลังคำกล่าวของพาวเวลล์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน เช่น ทองคำ
แม้จะมีการปรับฐานลงในช่วงนี้ แต่ราคาทองคำก็ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โลหะมีค่าอื่น ๆ ปรับตัวลดลงในวันนี้ โดย แพลตตินั่มฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 1,037.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ {{|แร่เงินฟิวเจอร์ส}} ลดลง 0.2% มาเป็น 32.252 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม สัญญา (ทองแดงฟิวเจอร์ส) บน London Metal Exchange ปรับตัวขึ้น 0.1% มาเป็น 9,370.10 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมลดลง 0.1% มาเป็น 4.5918 ดอลลาร์ต่อปอนด์
อีกทั้ง เจอโรม พาวเวลล์ ก็ยังมีกำหนดการณ์ให้การต่อรัฐสภาอีกครั้งในวันนี้ด้วย
จับตาข้อมูล CPI หาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
แต่ก่อนหน้าการให้การของพาวเวลล์ ตลาดยังต้องจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ประจำเดือนมกราคมในวันนี้
ตัวเลข CPI คาดว่าจะทรงตัวจากเดือนธันวาคม เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มคงที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
Goldman Sachs คาดการณ์ว่า core CPI ซึ่งตัดสินค้าราคาผันผวนออก อาจออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย