Investing.com - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มภาษีการค้าภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่ากลุ่มโลหะอื่น ๆ อย่างมาก โดยไม่สะทกสะท้านต่อการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ หลังจากที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดที่เข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25%
ทรัมป์ยังได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มภาษีการค้าเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้
ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ หลังจากที่ทรัมป์เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดภายในสุดสัปดาห์นี้ พร้อมเตือนถึงผลกระทบที่ร้ายแรงหากไม่ปฏิบัติตาม
ราคาทองคำสปอต ทำสถิติสูงสุดที่ 2,942.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 2,968.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะขยับลงเล็กน้อย ณ เวลา 12:42 น.(GMT+7)
ทองพุ่งขึ้นหลังทรัมป์กำหนดภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 25%
เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดในอัตรา 25% ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดในชุดนโยบายภาษีการค้าของเขา โดยภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 12 มีนาคม
ประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่าเขาอาจปรับขึ้นภาษีสำหรับสินค้าเหล่านี้เพิ่มเติม และยังเปิดเผยว่าเขาจะประกาศแผนภาษีตอบโต้ต่อประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้
มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ทรัมป์ประกาศกำหนดภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งทำให้จีนไม่พอใจและตอบโต้กลับ
ตลาดกังวลว่าภาษีเพิ่มเติมจากทรัมป์อาจทำให้สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลกทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ความวิตกกังวลเหล่านี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังกลัวว่าภาษีของทรัมป์ ซึ่งผู้รับภาระคือผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนภาวะเงินเฟ้อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยข้อมูลเงินเฟ้อ CPI สำหรับเดือนมกราคมก็มีกำหนดการณ์จะเผยแพร่ในวันพุธนี้ และจะเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยต่อไป
โลหะมีค่าอื่น ๆ ไม่ได้ปรับตัวในทิศทางเดียวกันกับทองคำ เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากนโยบายภาษีของทรัมป์ โดย แพลตตินั่มฟิวเจอร์ส ขยับลงเล็กน้อยมาเป็น 1,035.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ร่วงลง 0.5% มาเป็น 32.343 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โลหะอุตสาหกรรมก็ได้รับผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ โดย ทองแดงฟิวเจอร์ส บน London Metal Exchange ร่วงลง 0.6% มาเป็น 9,411.25 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมลดลง 0.3% เป็น 4.6788 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ทรัมป์ขู่ยกเลิกข้อตกลงหากฮามาสไม่คืนตัวประกันชาวอิสราเอล
ทรัมป์ยังได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากที่เขาขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงการหยุดยิงหากกลุ่มติดอาวุธฮามาสไม่คืนตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดภายในวันเสาร์
ทรัมป์ระบุว่าหากตัวประกันไม่ได้รับการปล่อยตัว เขาจะเสนอให้ยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่เพิ่งลงนามไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยคำขู่ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ฮามาสระงับการปล่อยตัวตัวประกันบางราย โดยกล่าวหาว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ท่าทีของทรัมป์ต่ออิสราเอลและฮามาสยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจลุกลามไปทั่วภูมิภาค เขาเคยเสนอแนวคิดให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปยังประเทศอาหรับใกล้เคียง ซึ่งถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดจากประเทศในตะวันออกกลาง