Investing.com - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้และยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนก่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ
ทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ปะทุขึ้นอีกครั้งส่งผลให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ก็ช่วยหนุนราคาทองคำเช่นกัน
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐฯ อาจเข้าควบคุมฉนวนกาซา ก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ทองคำสปอต เพิ่มขึ้น 0.2% มาเป็น 2,862.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,884.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 12:58 น.(GMT+7) โดยราคาทองคำสปอตปรับตัวขึ้น 2.4% ในสัปดาห์นี้
ราคาทองคำแข็งแกร่งก่อนการเปิดเผยข้อมูลจ้างงาน
ราคาทองคำสปอตยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,882.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ก็เริ่มทรงตัวในวันนี้ ขณะที่ตลาดให้ความสนใจกับ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
นักลงทุนยังต้องเตรียมรับมือกับตัวเลขการจ้างงานที่อาจออกมาแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสัญญาณที่ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เฟดมีแรงกดดันน้อยลงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เฟดได้ส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงและนโยบายของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม การตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของทองคำในระยะยาว โดยเฉพาะหากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
โลหะมีค่าอื่น ๆ ทรงตัวในวันนี้ แต่ยังคงอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งสัปดาห์ โดย แพลตตินัมฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 1,021.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 32.678 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองแดงปรับขึ้นจากความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นของจีน
ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ขยายตัวจากการปรับขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก อาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
ทองแดงฟิวเจอร์ส บนตลาด London Metal Exchange ปรับขึ้น 1.1% มาเป็น 9,389.85 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.6% มาเป็น 4.4875 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้จีนตอบโต้ด้วยมาตรการทางการค้า ซึ่งนักวิเคราะห์จาก JPMorgan ได้คาดการณ์ว่า ทรัมป์อาจดำเนินมาตรการภาษี 60% ต่อจีนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม จีนคาดว่าจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้า
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของจีนยังบ่งชี้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม