โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคมมีดังต่อไปนี้
1. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ
ขณะที่สภาสหรัฐยังคงหาข้อสรุปเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวันนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ล่าสุด
คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่แล้วจะลดลงเล็กน้อย แม้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องน่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างมากก็ตาม
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์นี้เท่ากับ 1.415 ล้านราย จากสัปดาห์ที่แล้ว 1.434 ราย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องคาดว่าจะเท่ากับ 16.72 ล้านรายจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ 17.02 ล้านราย
เสนาธิการทำเนียบขาว นายมาร์ค มีโดวส์ ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่าคณะส.ส.ทั้งสองฝั่งยังคงเสียงแตกและพยายามประนีประนอมกัน รวมทั้งเสริมว่า "หากเราไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับนโยบายได้ภายในวันศุกร์นี้ ผมไม่คิดว่าการใช้เวลานานกว่านั้นจะช่วยอะไรได้" โดยมีรายงานว่าทำเนียบขาวข่มขู่ที่จะยุติความยืดเยื้อด้วยการใช้คำสั่งคณะบริหารหากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถประนีประนอมกันได้
2. เศรษฐกิจเยอรมนีส่งสัญญาณพลิกฟื้น แต่ผลประกอบการองค์กรต่าง ๆ ในยุโรปยังคงอ่อนแอ
เศรษฐกิจเยอรมนีกำลังส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยยอดคำสั่งซื้อโรงงานซึ่งเป็นข้อมูลบ่งชี้ที่สำคัญเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยุโรปในเดือนมิถุนายนได้ออกมาสูงขึ้น 27.9% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 10.4%
ถึงกระนั้นยอดคำสั่งซื้อโรงงานยังคงต่ำกว่าปีก่อนถึง 11%
ทางด้านฝั่งยุโรป ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในอิตาลีประจำเดือนมิถุนายนก็เด้งกลับขึ้นมา 8.2% สูงกว่าที่คาดไว้ 5.1%
ข้อมูลดังกล่าวบรรเทาผลกระทบจากผลประกอบการที่ออกมาย่ำแย่ โดยสายการบิน Lufthansa ได้รายงานผลการดำเนินงานรายไตรมาสที่ขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วน Adidas ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไรนักและบริษัทประกันภัย AXA กับบริษัทซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ Glencore ก็ได้ยกเลิกการจ่ายเงินปันผลด้วย
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวหลายทิศทางหลังยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐพุ่งขึ้นอีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวหลายทิศทาง ท่ามกลางความยืดเยื้อของการเจรจานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดในสภาสหรัฐ รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาเมื่อวานนี้ที่พุ่งสูงอย่างมาก
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้าขยับลง 12 จุดหรือต่ำกว่า 0.1% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าคงตัวและสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าติดลบ 0.1%
หุ้นที่น่าจะได้รับการจับตาในวันนี้ได้แก่ Walt Disney ซึ่งทำระดับสูงสุดเมื่อวานนี้หลังจากผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด ส่วนในวันนี้จะมีการรายงานผลประกอบการของ T-Mobile US, Booking, Illumina และ Uber หลังเวลาตลาดปิด
4. เงินปอนด์แข็งค่าหลังธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม
ธนาคารกลางอังกฤษเผยว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2021 เพื่อกลับคืนสู่สภาพก่อนเกิดการระบาด
ทว่าทางธนาคารกลางยังระบุอีกด้วยว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจช่วงนี้มีแนวโน้มว่าจะไม่รุนแรงมากนัก และจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม รวมทั้งวงเงินการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมครั้งล่าสุดด้วย
เงินปอนด์ได้รับแรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการก่อสร้างที่ออกมาดีเกินคาด และจึงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโรในวันนี้
5. ราคาน้ำมันปรับฐาน ส่วนโลหะมีค่าปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กลับเข้าสู่ภาวะการเลี่ยงความเสี่ยงอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันย่อตัวลงจากขาขึ้นหลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐออกมาแข็งแกร่งเมื่อวานนี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ขยับลง 0.9% เท่ากับ $41.80 ต่อบาร์เรล สัญญาเบรนท์ ขยับลง 0.3% เท่ากับ $45.02 ต่อบาร์เรล
ในทางตรงกันข้ามราคาทองคำและเงินกลับปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำได้ทะลุระดับ $2,050 ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และสัญญาซื้อขายเงินล่วงหน้าแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีอีกครั้งแต่ยังคงอยู่ต่ำกว่า $28/ออนซ์เล็กน้อย