Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเกือบ 100 จุด ลุ้นเฟดหั่นดบ. 0.50% สัปดาห์นี้

เผยแพร่ 17/09/2567 01:42
© Reuters.  ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเกือบ 100 จุด ลุ้นเฟดหั่นดบ. 0.50% สัปดาห์นี้

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุด ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์นี้

ณ เวลา 18.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 93 จุด หรือ 0.22% สู่ระดับ 41,918 จุด

นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมรอบนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.0% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 30.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 41.0% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักมากถึง 70.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 230,000 ราย สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 227,000 ราย

หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายโจน ฟอสต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุในบทความที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอนัลว่า ถ้าหากเจ้าหน้าที่เฟดได้ข้อสรุปว่าพวกเขามีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ย.หรือธ.ค. พวกเขาก็ควรที่จะดำเนินการดังกล่าวในขณะนี้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ห่างไกลที่สุดจากจุดหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา

นอกจากนี้ นายฟอสต์ระบุว่า แม้เขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จำเป็นต้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% แต่เขาก็มีความโน้มเอียงเล็กน้อยที่ต้องการให้เฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% "และผมยังคงคิดว่ามีโอกาสที่เฟดจะดำเนินการดังกล่าวเช่นกัน"

ความเห็นของนายฟอสต์สอดคล้องกับนายบิล ดัดลีย์ อดีตประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ซึ่งกล่าวว่า มีโอกาสอย่างมากที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในการประชุมสัปดาห์นี้

"ผมคิดว่ามีโอกาสอย่างมากที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไม่ว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม" นายดัดลีย์กล่าว
นอกจากนี้ นายดัดลีย์ระบุว่า ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่สูงกว่าระดับที่เป็นกลางราว 1.50-2.00%

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย