โดย Ambar Warrick
Investing.com -- ราคาน้ำมันดิ่งลงในการซื้อขายช่วงต้นของตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากข้อมูลอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นถึงปริมาณสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ของประเทศที่มีผู้บริโภคน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ในขณะที่การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นก็ได้กระตุ้นให้มีการดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ข้อมูลจาก API แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์จนถึงวันที่ 17 มีนาคม โดยคาดว่าจะเห็นตัวเลขที่คล้ายกันจาก รายงานของรัฐบาล ซึ่งจะเปิดเผยในท้ายวันนี้
นักวิเคราะห์คาดว่าจะตัวเลขจากทางการจะแสดงให้เห็นถึงการถอนน้ำมันดิบออกมาที่ 1.55 ล้านบาร์เรล แต่จะยังคงมีการเพิ่มน้ำมันดิบเข้าไปเป็นสัปดาห์ที่ 13 จาก 12 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปทานที่สูงและอุปสงค์ที่อ่อนแอในประเทศ
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.4% เป็น 74.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.7% เป็น 69.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 21:41 ET (01:41 GMT) สัญญาทั้งสองเพิ่มขึ้นระหว่าง 1.7% และ 3% ในวันอังคาร
ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความหวาดกลัวต่อวิกฤตธนาคารที่ผ่อนคลายลง ขณะที่รัฐบาลได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบธนาคาร
แต่ความกลัวว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวยังคงมีอยู่ เนื่องจากการล่มสลายของธนาคารสหรัฐฯ หลายแห่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เน้นย้ำถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูง
ขณะนี้ให้จับตามองไปที่ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในท้ายวันนี้ ซึ่งมีการคาดว่าธนาคารกลางจะ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน ความกลัวต่อวิกฤตการธนาคารที่ผ่อนคลายลงทำให้นักลงทุนวางเดิมพันว่าเฟดจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายที่ใช้เพื่อการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและกดดันตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น
ราคาน้ำมันลดลงอย่างมากในปีนี้ท่ามกลางความกังวลว่าการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกอย่างมาก ตลาดกลัวว่าแนวโน้มดังกล่าวอาจชดเชยการฟื้นตัวของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่คาดว่าประเทศจะยังคงผลักดันความต้องการใช้น้ำมันให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
ตลาดกำลังรอดูการประชุม OPEC+ ในเดือนหน้า ด้วยความหวังว่ากลุ่มพันธมิตรจะลดการผลิตเพื่อตอบสนองต่อราคาที่ร่วงลงเมื่อเร็ว ๆ นี้