ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลักไม่ว่าจะเป็นเอสแอนด์พี 500 ดาวโจนส์ แนสแด็กและรัสเซล 2000 ต่างพากันปิดตลาดด้วยราคาซื้อขายที่ปรับลดลงในวันศุกร์ที่แล้ว สาเหตุของขาลงนั้นเกิดขึ้นมาจากรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 และตัวเลขยอดขายปลีกของเดือนธันวาคมออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์ก็ประเมินว่าสถานการณ์ของการย่อตัวครั้งนี้จะดีขึ้นหลังจากวันที่ 20 มกราคมซึ่งจะเป็นวันที่นายโจ ไบเดนเข้าพิธีสาบานตน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนที่ 46 อย่างเป็นทางการ ตลาดค่อนข้างตั้งความหวังกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเอาไว้มากว่าโจ ไบเดนจะสามารถดำเนินการตามนี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หุ้นในกลุ่มการเงินและพลังงานต่างถูกเทขาย
นักลงทุนในตลาดหุ้นบางส่วนตัดสินใจปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรทันทีหลังจากว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศมาตรการเยียวยาของเขามูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ข่าวดังกล่าวกดดันในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง 1.5% จากจุดสูงสุดของวันศุกร์ อันที่จริงแล้ว มาตรการเยียวยาเป็นเพียงปัจจัยกดดันปัจจัยหนึ่ง สิ่งที่นักลงทุนเป็นกังวลอีกหนึ่งประเด็นก็คือความเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คาดว่าจะดำเนินกับจีนต่อไปท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
จากรูปจะเห็นว่ากราฟดัชนีเอสแอนด์พี 500 ในวันศุกร์ที่แล้วปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันหลังจากที่กราฟไม่สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคาสูงสุดของแท่งเทียนรูปแบบคนแขวนคอ (Hanging Man) ได้นอกจากนี้ อินดิเคเตอร์อย่าง MACD และ RSI ต่างก็ส่งสัญญาณเตรียมที่จะลดระดับลงจากจุดสูงสุดและกำลังเตรียมมุ่งหน้าลงสู่การทดสอบเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่จุดต่ำสุดเดือนมีนาคมปี 2020
หุ้นในกลุ่มพลังงานถูกเทขายทันทีหลังจากที่ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างเจพี มอร์แกน (NYSE:JPM) และ เวลล์ ฟาร์โก (NYSE:WFC)รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ หุ้นของเวลล์ ฟาร์โกปรับตัวลดลง 7.8% หลังจากรายงานผลประกอบการดังกล่าว จิม เครมเมอร์ นักวิเคราะห์จาก CNBC วิเคราะห์สาเหตุที่กำไรของธนาคารชื่อดังลดลงเป็นเพราะประชาชนไม่มีความสามารถในการกู้เพิ่มเติมอีกต่อไปตราบใดที่สถานการณ์การจ้างงานภายในประเทศยังไม่ดีขึ้น
หุ้นอีกหนึ่งกลุ่มที่ถูกเทขายเช่นเดียวกับธนาคารคือหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลง 3.9% ที่น่าสนใจก็คือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่เอ็กซอน โมบิล (NYSE:XOM) ร่วงลงมากถึง 4.8% จากข่าวเชิงลบที่ว่าบริษัทกำลังเสียเวลาไปกับการสำรวจเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าความเป็นจริง
สถานการณ์ของขาลงในหุ้นเอ็กซอน โมบิลมีความเป็นไปได้มากที่เดียว จากที่เห็นในรูปจะพบว่าแท่งเทียนได้สร้างรูปแบบดาวตก (Evening Star) ที่บริเวณส่วนบนของกรอบราคาขาขึ้นแล้วซึ่งมีความหมายว่าราคาอาจหมดแรงและปรับตัวลดลงมาก่อน ขาลงนี้ยังได้แรงสนับสนุนจากอินดิเคเคอร์ RSI ที่อยู่ ณ บริเวณเส้น 80 แล้ว หมายความว่ากราฟอยู่ในโซน oversold มากๆ และอาจเกิดเป็นรูปแบบหัวไหล่ที่สนับสนุนให้ราคาปรับตัวลดลงในอนาคตอันใกล้
จากสิ่งที่เกิดขึ้น จึงสรุปเป็นภาพรวมได้ว่าสัปดาห์ที่แล้วดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง 1.5% ตลอดทั้งสัปดาห์ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์และเป็นการย่อตัวที่มากที่สุดในรอบสิบเอ็ดสัปดาห์ล่าสุด
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลงหลังจากวิ่งขึ้นมา 20 จุดเบสิสซึ่งถือเป็นขาขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2020
สาเหตุที่กราฟผลตอบแทนฯ สามารถปรับตัวขึ้นมาได้เป็นเพราะความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นและดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า สัญญาณเหล่านี้คือสัญญาณของอัตราเงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในสัปดาห์ที่แล้วจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นเพียง 1.6% ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยในปี 2019 ที่ 2.2%
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเห็นว่ากราฟผลตอบแทนฯ ติดแนวต้านที่ 1.150 ซึ่งต้องถือเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งเพราะก่อนหน้านี้แท่งเทียนได้สร้างรูปแบบดาวตก (Shooting Star) เกิดขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ โอกาสยังเทไปทางขาลงมากขึ้นเมื่ออินดิเคเตอร์ RSI วิ่งอยู่ที่โซน overbought ที่ระดับ 78 แต่ตราบใดที่กราฟยังไม่วิ่งลงมาจนหลุดกรอบด้านล่าง การวิ่งลงมาก็จะถูกพิจารณาเป็นเพียงการย่อตัวเท่านั้น
กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กลายขาขึ้นสองสัปดาห์ติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน
กราฟดัชนีดอลลาร์มีราคาปิดสูงกว่าเส้นเทรนด์ไลน์ที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ขาขึ้นดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากอินดิเคเคอร์ RSI ROC และ MACD ที่ต่างก็อยู่ในจุดต่ำสุดทั้งสิ้น เป้าหมายถัดไปของกราฟดัชนีจะอยู่ที่กรอบราคาขาลงด้านบนที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม แม้ว่าสองสัปดาห์ล่าสุดจะเป็นขาขึ้นจากดอลลาร์ แต่ภาพรวมแล้วดอลลาร์สหรัฐยังถือว่าอ่อนค่าอยู่เมื่อพิจารณากราฟในระยะยาว
ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันหลังจากขาขึ้น 3% ไม่สามารถยืนอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้ ตอนนี้กราฟทองคำกำลังสร้างรูปแบบธงที่คาดว่าจะเป็นการฟอร์มตัวเพื่อปรับตัวลดลงต่อ
สัปดาห์ที่แล้ว กราฟบิทคอยน์ปรับตัวลดลง 6.2% หากนับรวมกับขาลงในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมด้วยแล้ว เท่ากับว่าบิทคอยน์ลงมาแล้วทั้งสิ้น 10.25% เป็นครั้งแรกที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าซื้อขายลดลงหลังจากขาขึ้นสี่สัปดาห์ติดต่อกัน
บิทคอยน์วิ่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูปธงมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม หากว่ากราฟสามารถหลุดสามเหลี่ยมนี้ขึ้นไปได้ โอกาสที่บิทคอยน์จะสามารถขึ้นไปยัง $50,000 มีสูงมาก
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือน
จากพฤติกรรมราคาแท่งเทียนจะเห็นว่ากราฟสร้างรูปแบบกลืนกินที่ชี้ไปในขาลง (Bearish Engulfing) ในเวลาเดียวกันนั้น อินดิเคเตอร์ RSI ก็อยู่ในโซน overbought ที่พร้อมจะปรับตัวลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่เกิดจากรูปแบบกลืนกินนี้อาจจะไม่เกิดขาลงตามมาในทันที เพราะแนวโน้มใหญ่ของราคายังอยู่ในขาขึ้น และกราฟก็ไม่ได้แสดงท่าทีอื่นๆ ที่สนับสนุนขาลงเพิ่มเติม
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EST)
วันอาทิตย์
21:00 (ประเทศจีน) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าแบบปีต่อปีจะเพิ่มขึ้นจาก 4.9% เป็น 6.1% และแบบไตรมาสต่อไตรมาสจะเพิ่มขึ้นจาก 2.7% เป็น 3.2%
21:00 (ประเทศจีน) รายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม: คาดว่าจะลดลงจาก 7.0% เป็น 6.9%
วันจันทร์
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง
08:30 (อังกฤษ) แถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ
วันอังคาร
05:00 (เยอรมัน) รายงานตัวเลขบรรยากาศทางธุรกิจจาก ZEW: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 55.0 เป็น 60.0
20:30 (ประเทศจีน) รายงานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางจีน: ตัวเลขครั้งก่อนอยู่ที่ 3.85%
วันพุธ
02:00 (สหราชอาณาจักร) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI): คาดว่าแบบปีต่อปีจะเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 0.5%
05:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI): คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ -0.3%
08:30 (แคนาดา) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CPI): คาดว่าตัวเลขแบบเดือนต่อเดือนจะลดลงจาก 0.2% เป็น -0.2%
10:00 (แคนาดา) รายงานตัวเลขอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินจากธนาคารกลางแคนาดา (BoC)
10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง: คาดว่าจะลดลงจาก -3.247M เป็น -2.266M
12:00 (สหรัฐฯ) พิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่นายโจ ไบเดน
19:30 (ออสเตรเลีย) รายงานตัวเลขอัตราการจ้างงาน: คาดว่าจะลดลงจาก 90.0K เป็น 50.0K
วันพฤหัสบดี
07:45 (ยูโรโซน) รายงานอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB)
08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง: คาดว่าจะลดลงจาก 1.635M เป็น 1.604M
08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะลดลงจาก 965K เป็น 795K
08:30 (ยูโรโซน) แถลงการณ์จากธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB)
19:30 (ออสเตรเลีย): รายงานตัวเลขยอดขายปลีก: ครั้งก่อนออกมาอยู่ที่ 7.1%
วันศุกร์
02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขยอดขายปลีก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -3.8% เป็น 0.9%
03:30 (เยอรมัน) รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะลดลงจาก 58.3 เป็น 57.5
04:30 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 57.3
04:30 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคบริการ: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 49.9
08:30 (แคนาดา) รายงานตัวเลขยอดขายปลีกพื้นฐาน: คาดว่าจะลดลงจาก 1.0% เป็น 0.3%
10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยมือสอง: คาดว่าจะลดลงจาก 6.69M เป็น 6.54M