ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ 22 วัน เริ่ม 22มี.ค.-12 เม.ย
ผู้ว่าฯ กทม.สั่งล็อกดาวน์กรุงเทพฯ 22 วัน เริ่ม 22 มี.ค.-12 เม.ย. ปิดสถานที่ 26 ประเภททั้งห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารขายได้นำกลับกลับบ้าน(รายละเอียดอยู่ในตารางด้านหลัง) ขณะเดียวกันปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศให้ 5 จังหวัดปริมณฑล สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ทำการล็อกดาวน์ระยะเวลาเดียวกันกับกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการใช้สถานที่ ที่มีคนไปรวมตัวกันจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิค-19 ในมาตรการที่เพิ่มสูงขึ้น
มีผลกระทบเชิงบวกบางส่วนของผู้ประกอบการค้าปลีก
ในช่วงต้นของไตรมาส 1Q63 ยอดขายของกลุ่มฯมีผลกระทบจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และรวมถึงฝันร้ายจาก โรคระบาดโควิค-19 อย่างไรก็ดีจากภาวะการตื่นตัวของการบริโภคที่ถูกจำกัดมากขึ้นและนโยบาย Work from Home ของบริษัทผู้ประกอบการตามนโยบายภาครัฐที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ทำให้เกิดการซื้อสินค้าสะสมเพื่อการบริโภคเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเดือน มี.ค ของธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าสะดวกซื้อ ที่ยังสามารถดำเนินการขายสินค้าเพื่อรองรับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งเราคาดว่า SSSG ที่อ่อนแอในระหว่างเดือน ม.ค-ก.พ.จะมีแรงหนุนขึ้นมาในเดือน มี.ค. ซึ่ง
อาจทำให้ SSSG ของ 1Q63 ไม่กระทบมากอย่างที่คาดในช่วงต้นไตรมาส
2Q63 รอดูสถานการณ์อีกครั้ง
ใน 2Q63 เราคาดประเด็นการสะสมสินค้าเพื่ออุปโภคและบริโภคยังคงมีเห็นอยู่พร้อมกับระยะเวลาการล็อกดาวน์ขณะเดียวกันการเข้าสู่ฤดูร้อนจะทำให้ความต้องการสินค้าบางประเภทเริ่มกลับมาเช่นสินค้าพร้อมทานและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะในร้านสะดวกซื้อ อย่างไรก็ดีแรงซื้ออาจมีผลกระทบจากรายได้ของผู้บริโภคที่ลดลง เกิดจากการสั่งล็อกดาวน์ดังกล่าวเช่นกัน จนกว่าสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโควิค-19 จะคลี่คลาย ขณะเดียวกันอาจเห็นมาตรการภาครัฐที่มีออกมาช่วยสนับสนุน
น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด ”
เรามองการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ เป็นการสร้างยอดขายที่ดีช่วงหนึ่ง ต่อ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BK:BJC) และ CPALL (BK:CPALL)
BJC: ยอดขายเพิ่มขึ้น 2 ทางจากยอดขายของธุรกิจค้าปลีก BIGC ในทุกสาขาทั้งในส่วนของไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ตและ Mini Bigc รวมถึงร้านขายยา Pure ขณะที่ยอดขายดีจากธุรกิจอุปโภคบริโภค เช่นกระดาษชำระ สบู่ ขนมขบเคี้ยว และสินค้ายาและเวชภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าป้องกันเช่น เจลแอลกอฮอล์/ หน้ากากอนามัย ได้รับความนิยม
CPALL: ยอดขายจากร้านสะดวกซื้อผ่าน 7-eleven กว่า 1 หมื่นสาขาทั่วประเทศ และยอดขายจาก
MAKRO ซึ่งเน้นขายสินค้าอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภค
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities