รับข้อมูลพรีเมียมสำหรับมหกรรมลดราคา Cyber Monday: ลดสูงสุด 55% InvestingProรับส่วนลด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก ถอยมารับ หรือ ถอยมาทับ?

เผยแพร่ 12/06/2563 13:17
อัพเดท 09/07/2566 17:32
US500
-
DJI
-
NFLX
-
IXIC
-
SETI
-

เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวร่วงหนักทุกดัชนี โดย Dow Jones ปิดที่ระดับ 25,128.17 จุด ปิดลบไป -1,861.82 จุด หรือ คิดเป็น -6.90% ขณะที่ S&P 500 ปิดที่ระดับ 3,002.10 จุด ปิดลบไป -188.04 จุด หรือ คิดเป็น -5.89% สุดท้าย ดัชนี NASDAQ ปิดลบไป -527.62 หรือ คิดเป็น -5.27% หลังจากไปยืนเหนือ 10,000 จุด ได้เพียงแค่วันเดียว

ทั้งนี้ การลบระดับนี้ ถึงแม้จะดูหนัก แต่เมื่อเทียบกับคลื่นลูกแรกของการระบาดในสหรัฐฯช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. แล้ว การร่วงระดับนี้ ยังไมได้ทำสถิติหนักสุดของปีนะครับ โดยมีอีก 5 วันทำการที่ Dow Jones ร่วงแรงกว่าเมื่อคืนนี้ (คือวันที่ 9 , 12 และ 16 มี.ค.)

กราฟดัชนีดาวโจนส์ 1 วันที่ผ่านมา

ดูกราฟดัชนีดาวโจนส์

ปัจจัยอะไรที่ถูกปล่อยออกมาผ่านสื่อในช่วงที่ตลาดปรับฐานบ้าง

1. สื่อทุกสำนักรายงานตรงกันว่า หลักๆมาจากปัจจัยเรื่องการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทำจุดสูงสุดใหม่ในหลายๆรัฐของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น Texas, Florida, North Carolina และ Arizona โดยเฉพาะที่ Texas ที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นทะลุ 1,500 รายต่อวันไปแล้ว ทำให้แผนการเปิดเมืองที่เพิ่งจะทำกันไป พอเจอทั้งการประท้วงกรณี การเสียชีวิตของคุณ George Floyd และการระบาดระลอก 2 นักลงทุนมองว่า โอกาสปิดเมือง กลับมา Lockdown อีกครั้งสูงขึ้นทันที

2. จริงๆ ตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงหุ้นไทย ปรับฐานล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน โดนแรงขายนั้นก็มาจากการที่ Valuation เริ่มตึงตัวมากๆ รวมถึงผลการประชุมเฟดเมื่อคืนวันพุธ ที่เฟดเลือกเพียงแค่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% มองว่าจะคงดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อยอีกปีครึ่ง แต่ยังไม่ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆเพิ่มเติม ในขณะที่มีมุมมองว่า GDP Growth ในปี 2020 จะติดลบ -6.5% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และหากเป็นจริงเช่นนี้ เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวแบบ U Shape มากกว่า V Shape

3. OECD ได้เตือนเมื่อวันเช้าวันพุธว่า การระบาดของ COVID-19 จะทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 100 ปี โดยมองว่า หากคลื่นลูกที่ 2 ของการระบาดเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง มีโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะหดตัวถึง -7.6% พอรวมกับปัจจัยในข้อ 1. กับ ข้อ 2. แน่นอนว่า ก็มีนักลงทุนที่ห่อกำไรมาตั้งแต่เดือนมี.ค. จะลดพอร์ต ขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกไปบ้าง

ทั้งนี้ สันนิษฐานของนักวิเคราะห์และสื่อทุกสำนักที่บอกว่า ตลาดหุ้นปรับฐานเพราะกลัว Wave 2 นั่น ก็มีส่วนจริงอยู่เยอะ เพราะหากไปมองที่หุ้นรายตัวในสหรัฐฯ จะพบว่า หุ้นกลุ่มที่โดนเทหนักๆคือ Airlines, Cruise Operators, Retailers, Banking และ Energy ซึ่ง Sensitive กับ Lockdown มากกว่าหุ้นกลุ่ม Technology

และหุ้นที่บวกได้เมื่อคืน ก็เป็นหุ้นที่พิสูจน์แล้วว่า นักลงทุนพยายามเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกักตัวอยู่บ้าน และ Work From Home อย่าง Zoom ที่ยังอุตส่าห์ปิดบวกไปได้ตัวเดียวใน NASDAQ 100 ที่ +0.48% ขณะที่หุ้น Netflix (NASDAQ:NFLX) ก็ลบน้อยที่สุดติดอันดับ 5 โดยลบแค่ -2.05% เมื่อเทียบกับดัชนีที่เฉลี่ยแล้วลบ -5.27%

ทั้งนี้ ช่วงก่อนเที่ยงคืน นาย Steven Mnuchin รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNBC ว่า การปิดเมืองรอบสอง ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ทำเนียบขาวจะทำ และบอกว่า ยินดีที่จะเข้าไปขออนุมัติผ่านสภาคองเกรสอีกรอบเพื่อกระตุ้นด้วยมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมหากจำเป็น
แต่ก็ดูเหมือนว่า คำพูดของ Mnuchin จะไม่ได้ทำให้ตลาดสบายใจขึ้นได้เลยนะครับ

ไปดูสินทรัพย์ประเภทอื่น ก็สะท้อนว่า ตลาดเข้าสู่ Risk Off Mode เพราะ ราคาทอง Spot Gold จากที่หลุด $1,690 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาวันนี้กลับมายืนเหนือ $1,727 ได้ พร้อมๆกับ US Treasury อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป Yield ไหลลงมากันหมด ขณะที่ US Treasury ตัวระยะสั้นกว่า 5 ปี Yield เด้งขึ้น แสดงว่ามีแรงขายโยกจากตราสารหนี้ระยะสั้นเข้าตราสารหนี้ระยะยาว

ด้านค่าเงินดอลล่าร์ ก็แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองผ่าน Dollar Index จากหลุด 96 ก็ขยับขึ้นมาที่ 96.77 จุด

วันนี้ตอนเช้าเปิดมาตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย SET เหนื่อยแน่ๆครับ

*******************************

เพื่อตอบคำถามว่า ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงหนักเมื่อคืน มันคือการถอยมารับ หรือ ถอยมาทับ? ไป

ดูมุมมองทางเทคนิคกัน

1. ดัชนี Dow Jones Industrial Average ( กดดูกราฟ ) ภาพไม่สวย เพราะแท่งเทียนเมื่อวานหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และได้ Sell Signal จาก MACD รวมถึง RSI ปักหัวลงมาจาก Overbought Zone ด้านที่น่าสนคือ ลงมาชน Uptrend Line ในกราฟ Day พอดี

2. ดัชนี S&P 500 ( กดดูกราฟ ) อาการคล้ายๆ Dow Jones แท่งเทียนยังไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน สิ่งที่เหมือน Dow Jones ก็คือ ได้ Sell Signal จาก MACD ไปแล้ว แต่ที่น่ากังวลกว่า คือ หลุด Uptrend Line ในกราฟ Day ไปเรียบร้อย

3. NASDAQ Composite ( กดดูกราฟ ) ยืนเกาะเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันพอดี แต่เจอ Sell Signal บน MACD รวมถึง RSI ปักหัวลงมาจาก Overbought Zone แต่ก็หลุด Uptrend Line ไปแล้ว (เพราะรอบขาขึ้น พี่ลากซะชันเหลือเกิน)

ขณะที่กราฟรายสัปดาห์ยังบอกอะไรไม่ได้มากว่า ตลาดหุ้นอเมริกากำลังเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลงแล้วหรือยัง แต่ถ้าไปดูหุ้นรายตัวใน Technology Sector ที่เป็น Leader Stock จะพบว่าการขึ้นเริ่มชะลอมา 2 สัปดาห์ก่อนแล้ว เพราะหลีกทางให้กับพวก Cyclical Sector ได้วิ่งขึ้นมาก่อนจะโดนทุบเละเทะภายในไม่ถึงเดือน ก็ต้องมาดูหุ้นกลุ่มนี้ในสัปดาห์หน้าว่าจะปฎิบัติอย่างไร สมกับเป็นผู้นำในรอบที่ผ่านมาขนาดนั้นรึเปล่า

แต่จนถึงตอนนี้ ตลาดจะเริ่มกลับมา Sensitive กับข่าวร้าย โดยเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 สิ่งที่ Mr.Market ทำเป็นไม่เห็นและมองข้ามมาตลอด มาตอนนี้ อยู่ดีๆก็ให้น้ำหนักมันซะอย่างงั้น

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะมันขึ้นมาแรงเกินไป เลยต้องย่อบ้าง แต่เพราะความคาดหวังต่อ Unlimited QE มันสูง ความผันผวนของตลาดมันเลยสุดโต่งแบบที่เราเห็น

ส่วนตัว ยังเชื่อว่า เงินท่วมโลกยังมีอิทธิพลอยู่สูง เมื่อตลาดลงมาถึงจุดหนึ่ง เงินเหล่านี้ก็จะกลับเข้าตลาดหุ้นอีกรอบอยู่ดี
ยกเว้นก็แต่ว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯมันทรุดหนักจนเกินจะเยียวยาจริงๆ เจอแบบนั้น ผมก็คงต้องหนีไปทองแทนละครับ

Mr.Messenger รายงาน

บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ครั้งแรกบนเพจ MrMessengerDiary

บทความห้ามพลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐเผชิญความเสี่ยงจากสภาพคล่องที่ลดลง

2 สิ่งที่อยากแชร์ให้นักลงทุนไทยก่อนเตรียมรับแรงกระแทก SET วันนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย