TAOKAENOI FOOD & MARKETING ลูกรักคนใหม่ในกลุ่มอาหาร
หมดเรื่องกวนใจ
ตลอดช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา TKN เติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะปัญหาหลายประเด็นคือ
1) เกณฑ์การนำเข้าขนมขบเคี้ยวในอินโดนีเซียเปลี่ยนไปกำหนดให้สินค้าต้องมีเครื่องหมายฮาลาลของอินโดนีเซียเท่านั้น ทำให้รายได้ในอินโดนีเซียหยุดชะงักก่อนที่จะกลับเข้าไปทำตลาดใหม่ในปี 2561
2) มีปัญหากับ Distributor ในจีนช่วงปี 2561
3) ปี 2562 อยู่ในช่วงรอยต่อในการเปลี่ยน Distributor ในจีนทำให้ยอดขายหายไปบางไตรมาสและรายได้ลดลง 13.1%
4) เริ่มเข้าซื้อโรงงานในสหรัฐฯ ในปี2560 และมีผล ขาดทุนต่อเนื่องเพราะสินค้าสาหร่ายอบที่ผลิตเองในสหรัฐฯ ขาดทุนจึงเปลี่ยนมาจ้างผลิตแทน 5) ปี 2563 ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 กระทบรายได้ในประเทศ แต่นับตั้งแต่ 2H63 ปัญหาทุกอย่างผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดไปแล้ว รายได้ในประเทศฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป รายได้ในอินโดนีเซียเติบโตกลับมาที่ฐานรายได้เดิมที่เคยทำได้ รายได้ในจีนได้ Orion ช่วยทำให้กลับมาดีกว่าเดิม ธุรกิจในสหรัฐฯ เริ่มทำกำไรได้ ขณะที่มีโอกาสขยายไปในตลาดใหม่เช่น รัสเซีย เกาหลีใต้ เวียดนาม และยุโรป
Cycle รอบใหม่เริ่มชัด 2H63
แม้ว่าปี 2563 รายได้อาจได้รับผลกระทบแต่ได้ต้นทุนสาหร่ายที่ลดลงราว 10% YoY ช่วยหนุน GPM ในช่วงได้รับผลกระทบจาก COVID-19 บริษัทหันมาเน้นที่การลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้ เมื่อรายได้กลับมาเติบโตจะส่งผลให้กำไรเติบโตได้สูงกว่า ลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดลงให้สอดคล้องกับรายได้ รวมโรงงานจาก 2 แห่ง ไว้ที่โรจนะเพียงแห่งเดียวลดต้นทุนได้ 10 ลบ./เดือน ขณะที่ผลของการได้ Orion มาเป็นพันธมิตรช่วยกระจายสินค้าในจีนจะเห็นผลชัดเจนใน 2H63 และเต็มปี ในปี 2564 ซึ่งด้วย เครือข่ายที่มีทั่วประเทศจีนทำให้ TKN มีโอกาสเติบโตจากจีนได้อย่างมีนัยสำคัญจากเดิมวางขายหลักๆ แค่เพียง 3 มณฑลเท่านั้น นอกจากนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการเป็น Distributor ให้ในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ในระดับที่มีนัยสำคัญ เราคาดกำไปกติปี 2563 ที่ 406 ลบ. เติบโต 12.5% YoY โดย 59% อยู่ใน 2H63แต่ผลทั้งหมดจะส่งผลเต็มปี ในปี 2564 เป็นปี แรก
กำไรมีลุ้น New high ในปี 64, มีโอกาสที่กำลังการผลิตอาจไม่พอ ... ซื้อ
ปัจจุบัน เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (BK:TKN) มีกำลังการผลิตที่ 8,400 ตัน/ปี และจะเพิ่มเป็นประมาณ 8,800 ตัน/ปี ในปีนี้ แม้ว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตใน 1Q63 อยู่ที่เพียง 64% แต่เพราะผลกระทบชั่วคราวจาก COVID-19 แต่เมื่อจีน กลับมาปกติแต่ Coverage ของสินค้ากว้างมากขึ้น, รายได้ในประเทศค่อยๆ ฟื้นตัว, อินโดนีเซียกลับมาเติบโต, ตลาดใหม่อย่างรัสเซีย และเกาหลีใต้มีโอกาสได้การตอบรับดี และหากมี Distributor ที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ และยุโรป เท่ากับว่าสินค้าของ TKN อยู่ในตลาดที่มีผู้บริโภคมากถึง 3,000 ล้านคน แต่รายได้ ต่อปี ยังต่ำเพียง 5,000 – 6,000 ลบ. เราจึงมองว่าปี 2564 จะเป็นปี เริ่มต้นของการเติบโตรอบใหม่ที่มีนัยสำคัญของ TKN หากยอดขายในทุกประเทศเติบโตสูงพร้อมกันในปี 2564 อาจทำให้กำลังการผลิตที่มีไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตามเรายังไม่รวมโอกาสในกลุ่มประเทศใหม่ๆไว้ในประมาณการ เราคาดกำไรปี 2564 ที่ 627 ลบ. (+54.5% YoY) ได้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 16.10 บาท อิง PEG ที่ 0.65 เท่า เทียบเท่า PER2564 ที่ 35 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี ที่ 41 เท่า เริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ ซึ่งกำไรปี 2564 มีโอกาสทำได้ดีกว่าที่คาดไว้และทำ New high ได้ จากจีน สหรัฐฯ ยุโรป และ GPM ที่ดีกว่าคาด
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities