Daily View & Strategy คาด SET INDEX ปรับตัวขึ้นกรอบ 1283 – 1295 เนื่องจาก
1. ยา Remdesivir เมื่อคืนที่ผ่านมาทางบริษัท Gilead เผยว่าผู้ป่วย COVID19 ที่ได้รับยากว่า 50% มีอาการดีขึ้นภายใน 5 วัน และสามารถออกจาก โรงพยาบาลได้ใน 2 สัปดาห์
2. กลุ่มน้ำมัน คาดจะได้แรงหนุนจากกลุ่มน้ำมันตามราคาน้ำมันดิบ BRENT ที่ ปรับตัวขึ้นสูงถึง 10% หนุนจากสต็อกน้้ามันดิบในสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ นักวิเคราะห์คาดกอปรปัจจัยบวกจากยา Remdesivir
อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของดัชนี Upside อาจจะจำกัดเชื่อว่าจะถูกกดดันด้วยปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับการ Lock Down เมื่อวานที่ผ่านมาช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทยทาง กทม. ได้เผยว่าจะให้ผ่อนคลายกิจกรรมบางอย่างได้แต่ภายหลังจากนั้นราว 22.00 นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อก้าหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินสรุปใจความสำคัญได้ว่า มาตรการผ่อนคลายใดๆก็ตาม ที่ผู้ว่าจังหวัดนั้นได้ประกาศใช้ก่อนหน้านี้ให้ยกเลิกทั้งหมด และให้รอประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลเท่านั้นมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. อย่างไรก็ตามเช้านี้มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าช่วงเวลา 11.30 ของการแถลง ศบค. ประจำทุกวันจะมีการแถลงเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรน หรือ คลาย Lock Down (แนะติดตาม) เราประเมินว่าหากมีการผ่อนคลาย Lock Down จริงมองเป็นกลางเชื่อว่าตลาดคาดหมายไว้แล้ว แต่หากไม่มีการผ่อนคลายใดๆมองว่าจะเป็นลบกับตลาด รวมถึงหุ้น ห้าง (CPN DOHOME GLOBAL HMPRO) ร้านอาหาร (AU CENTEL MINT M) ขณะเดียวกันประเทศไทยจะเข้าสู่วันหยุดยาว 4 วัน เชื่อว่าจะกดดันให้เกิดแรงขาย ป้องกันความเสี่ยงได้ ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ผู้ที่รับความเสี่ยงไม่ได้แนะไม่ควร มีสถานะใดๆข้ามวันหยุดยาวและยังคงแนะให้ถือครองเงินสด 70% เช่นเดิม ส่วนหุ้น น่าสนใจได้แก่ โรงไฟฟ้า (BCPG BGRIM EGCO GPSC) CGS Coverage ที่มีปัจจัย บวกเฉพาะ (AUCT BCH CPF PTG) น้ำมัน (PTTEP (BK:PTTEP))
Stock Pick
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 97 บาท) เป็นหุ้นที่น่าสนใจในการเข้า Trading ภายใน วันตามปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับตัวขึ้น 10% ขณะเดียวกันวันนี้คาดว่า บริษัทจะรายงานกำไรสุทธิ 1Q20 ส้าหรับ CGS คาดที่ 6 พันล้านบาท (-52%YoY - 48%QoQ) ส่วน Bloomberg Consensus คาดที่ 7.9 พันล้านบาท (-37%YoY - 53%QoQ) แต่หากออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนมากคาดกันจะเป็นบวกกับหุ้น
SCC (ถือ / ราคาเป้าหมาย 306 บาท) ยังคงให้คำแนะนำเพียง “ถือ” วานนี้บริษัท รายงานกำไรสุทธิ 1Q20 ที่ 7 พันล้านบาท (-40%YoY -2%QoQ) เป็นแรงกดดันจากธุรกิจปิโตรเคมี โดยเรามีการปรับกำไรสุทธิปี 20 ลง 16% สะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 ที่ส่งผลต่อธุรกิจปิโตรเคมี นอกจากนี้เชื่อว่าผลประกอบการ 2Q จะถูกผลกระทบจาก COVID-19 มากกว่า 1Q แต่อีกนัยนึงเชื่อว่าผลประกอบการ 2Q จะ เป็นจุดต่ำสุด อย่างไรก็ตามด้วยภาวะอุปทานส่วนเกินของปิโตรเคมีที่ล้นจะท้าให้ ไม่ได้ฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th