สรุป พรรคเดโมแครตยอมถอนข้อเสนอในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าสู่ระดับ 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงออกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้าน แนวโน้มดังกล่าว อาจส่งผลให้วงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของสหรัฐถูกลดลง จนกดดัน ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์และตลาดหุ้นเอเชียอื่น ๆ ปรับตัวลดลง ประกอบกับ คณะกรรมการฝ่ายกํากับดูแลด้านการธนาคารและการประกันของจีน (CBIRC) แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงภาวะฟองสบู่ในตลาดการเงิน ทัวโลก และตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนจนกดดัชนีเซียงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง ซึ่งหนุนราคาทองคําให้ฟื้นตัวขึน อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐก็ลดลงตามวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจถูกปรับลดลง ส่งผลให้ทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ถูกลดความน่าสนใจลงตามไปด้วย ราคาทองคําจึงปรับตัวขึ้นได้ในระดับจํากัด ทางวายแอลจีประเมินแนวต้านไว้ที่ระดับ 1,730-1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านมีโอกาสเกิดอ่อนตัวลงมา ดังนั้นสําหรับนักลงทุนที่สะสมทองคําไว้อาจมีการขายออกมาบริเวณแนวต้านดังกล่าว หากราคาทองคํามีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับและราคาสร้าง สามารถสร้างฐานได้ แนะนําเข้าซื้อคืนเพื่อกําไรระยะสั้น ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,707-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ: หากการขยับขึ้นของ ราคาทองคํา ติดโซนบริเวณ 1,730-1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือยืนไม่ได้ ทําให้อาจเห็นการย่อ ตัวลงมาสร้างฐาน ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,707-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้ายืนเหนือแนวรับดังกล่าวไม่ได้ อาจเห็นการอ่อนตัวลงต่อทดสอบแนวรับถัดไป 1,685 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th