แม้ว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับตลาดลงทุนมากมายแต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือในรอบ 10 ปีมานี้ทองคำยังถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งมาโดยตลอดที่ผู้คนมักจะเลือกมาเป็นอับดับแรกๆ ในยามที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แต่จริงๆ แล้วพาลาเดียมก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
ท้าวความกันสักนิดสำหรับนักลงทุนที่เข้ามาในตลาดยังไม่ถึง 10 ปีเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาโดยสังเขปของราคาทองคำ ในช่วงปี 2010 ผู้คนเริ่มสนใจราคาทองคำเมื่อแร่โลหะนี้สามารถพาตัวเองขึ้นไปเกือบใกล้จะถึง $2000 ต่อออนซ์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีเท่านั้นจากระดับราคา $1096.20 ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความตกใจให้กับตลาดนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2011 กราฟราคาทองคำสปอตสร้างจุดสูงสุดให้กับตัวเองที่ $1920.80 ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้นมามากถึง $825 หรือคิดเป็น 75% ภายในระยะเวลา 20 เดือนเท่านั้น
ช่วงที่ผู้คนหันไปสนใจราคาทองคำกันอยู่พาลาเดียมเองก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจไม่แพ้ราคาทองคำเหมือนกัน กราฟพาลาเดียมปรับตัวขึ้นมาเฉลี่ยปีละ $140 คิดเป็น 23% อย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนจนในปัจจุบันปี 2019 ที่ราคาสามารถสร้างจุดสูงสุดของราคาไว้ที่ $2000.50 ก่อนถึงช่วงคริสต์มาสอีฟ
ถึงทองคำและพาลาเดียมจะน่าสนใจแต่ก็ยังห่างไกลเมื่อคิดจะล้มสถิติของทองคำขาว
แม้ว่าราคาทองคำและพาลาเดียมต่างทำผลงานกันได้ดีทั้งคู่ แต่ถ้าเทียบกับเจ้าของสถิติผู้สร้างจุดสูงสุดตลาดกาล (all-time high) ได้ตั้งแต่ก่อนช่วงปี 2009 - 2019 แล้วถือว่ายังห่างไกลซึ่งเจ้าของสถิติผู้นั้นคือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำขาว ที่นักลงทุนในตลาดมักขนานนามว่าเป็นน้องสาวของพาลาเดียมนั่นเอง
ทองคำขาวสร้างจุดสูงสุดของราคาให้กับตัวเองไว้ที่ $2276 ต่อออนซ์ได้ตั้งแต่ก่อนวิกฤติทางเศรษฐกิจในปี 2008 แล้ว ที่น่าตกลงใจคนในวงการลงทุนไม่ค่อยมีใครพูดถึงหรือให้เครดิตเจ้าแร่โลหะตัวนี้เลยทั้งๆ ที่ถ้ามองในแง่ของผลงานแล้วการวิ่งของราคานั้นแรงและทำได้ดีเกินครึ่งกว่าของพาลาเดียมเสียอีก
และนี่ก็คืออีกเรื่องหนึ่งของความไม่เท่าเทียมในโลกของแร่โลหะ
การปรับตัวลดลงมา $400 ของราคาทองคำในปัจจุบัน
แม้ว่าตอนนี้ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงมาคิดเป็น $400 ต่อออนซ์นับจากจุดสูงของราคาแต่ทองคำก็ไม่เคยปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับราคา $1000 เลยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการเป็นสินทรัพย์หลักประกันที่ผู้คนต่างยังให้ความไว้ใจอันดับหนึ่งในยามที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจหรือความไม่แน่นอนทางการเมือง เชื่อว่าจากตรงนี้ทองคำจะสามารถปิดฉากปี 2019 ของตัวได้ตัวเลขเปอร์เซนต์สองหลักแน่นอนแล้ว ตลอดทั้งปี 2019 นี้ราคาทองคำสปอตปรับตัวขึ้นมา 16% ในขณะที่ราคาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำปรับตัวขึ้นมา 14%
ขอเล่าถึงเหตุผลว่าทำไมราคาทองคำถึงมาอยู่ในจุดปัจจุบันของตัวเองตอนนี้ได้สักเล็กน้อย สำหรับราคาทองคำในปีนี้ระดับราคา $1500 ถือเป็นระดับราคาที่สำคัญมากของราคาทองคำ $1500 ถือเป็นแนวต้านที่ถ้าทองคำสามารถยืนเหนือได้ก่อนจบปี 2019 จะเป็นการเปิดประตูสู่แนวโน้มขาขึ้นต่อไปในปี 2020 แม้ว่าก่อนหน้านี้ทองคำจะได้รับผลกระทบในเชิงลบมาแล้วจากการที่เฟดตัดสินใจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกแล้วในปี 2019 แต่ราคาทองคำก็ยังอยู่ในจุดที่พร้อมจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้ตลอดเวลาเมื่อมีโอกาส
ในแง่ของผลตอบแทนแล้วปี 2019 พาลาเดียมทำผลงานได้ดีที่สุด
เมื่อเทียบกับราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงมา $400 แล้วพาลาเดียมนั้นปรับตัวลงมาเพียง $120 จากจุดสูงสุดของตัวเองในวันที่ 17 ธันวาคมเท่านั้นในปีนี้ ตลอดทั้งปีราคาพาลาเดียมสปอตปรับตัวขึ้นมา 48% ในขณะที่ราคาสัญญาซื้อขายพาลาเดียมล่วงหน้าปรับตัวขึ้นมา 55% สูงกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ตัวไหนๆ ในปีนี้
สาเหตุเดียวที่ทำให้ราคาพาลาเดียมสามารถปรับตัวขึ้นมาได้สูงขนาดนี้ในปี 2019 ก็คือความเป็นกังวลของนักลงทุนที่มีต่อแร่สำรองในแอฟริกาใต้และรัสเซียนั้นถือว่าลดลงเรื่อยๆ ซึ่งการที่แร่สำรองนี้มีน้อยกระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำมันให้กับรถยนต์ที่ต้องอาศัยพาลาเดียมในการทำให้ควันไอเสียที่ออกมาจากรถยนต์เป็นพลังงานที่สะอาดขึ้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าวงการอุตสาหกรรมยานยนต์จะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีกในปีหน้า
ถึงกระนั้นเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ถูกท้าทายมากขึ้นอย่างแน่นอนจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในแต่ละปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่นับวันก็เริ่มกินส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์แบบดั้งเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคพลังงานที่อาศัยการเผาไหม้เป็นหลักแน่นอน
แล้วในปีหน้าควรจะลงทุนกับสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ต่อไปอย่างไรดี?
ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นไปได้ถึง $1800 ในขณะที่พาลาเดียมอาจสร้างจุดสูงสุดใหม่ไม่ก็พักตัว
ในปี 2020 ราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปยัง $1700-$1800 ซึ่งต้องดูที่ปัจจัยหลักๆ อย่างความคืบหน้าของสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2020 แม้ว่าจะเสี่ยงแต่นักลงทุนก็ยินดีที่จะเชื่อว่าสัญญาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่จะเซ็นร่วมกันในบางส่วนนั้นจะปลอดภัยในมือของทรัมป์ ถ้าการเซ็นสัญญาเป็นไปด้วยความราบรื่นจริงตามที่นักลงทุนหวัง ตอนนี้ราคาทองคำปรับฐานอยู่บริเวณใกล้ๆ กับระดับราคา $1500 ในขณะที่หุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ขานรับข่าวดีเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน
ถ้าเฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อเพื่อรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ราคาทองคำจะได้โอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปอีก เป็นเวลานานกว่า 11 ปีแล้วที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง อาจถึงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องการการกระตุ้นสักเล็กน้อย
ทางฝั่งของพาลาเดียมกราฟอาจวิ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับราคา $2000 ได้สำเร็จถ้าปริมาณความต้องการแร่ชนิดนี้ยังคงปั่นป่วนอย่างเช่นในปีนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าสถานการณ์ในแอฟริกาใต้และรัสเซียเริ่มคงที่เมื่อไหร่ กราฟพาลาเดียมอาจปรับตัวลดกลับลงมาอยู่ที่ $1500